ทำเนียบขาว อ้าง ดีดภาษีจีน พุ่ง 245% สั่งสอบนำเข้าแร่หายาก

16 เม.ย. 2568 | 10:59 น.
อัปเดตล่าสุด :16 เม.ย. 2568 | 11:34 น.

ทำเนียบขาวอ้างว่าจีนเผชิญภาษีนำเข้าสูงสุด 245% แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดในสหรัฐฯ ชี้แจงที่มา ขณะที่ตัวเลขเดิมที่ “ทรัมป์” เคยกล่าวไว้ อยู่ที่ราว 145%

ทำเนียบขาวอ้างว่า จีนเผชิญภาษีนำเข้าสูงสุด 245% แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดในสหรัฐฯ ชี้แจงที่มา ขณะที่ตัวเลขเดิมที่ "ทรัมป์" เคยกล่าวไว้ อยู่ที่ราว 145% โดยทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ล่าสุด ระบุว่าจีนกำลังเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 245% จากมาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่ออกโดยรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์จากหลายฝ่ายว่าตัวเลขดังกล่าวมีความชัดเจนและมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงที่มาของอัตราภาษี 245% ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

ทำเนียบขาว อ้าง ดีดภาษีจีน พุ่ง 245% สั่งสอบนำเข้าแร่หายาก

ที่ผ่านมา ตัวเลขภาษีนำเข้าที่สื่อต่างประเทศและนักวิเคราะห์ใช้ในการอ้างอิงอยู่ที่ราว 145% ซึ่งสอดคล้องกับคำประกาศของทรัมป์เมื่อหลายปีก่อนที่สั่งปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนภายใต้นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ให้สูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อสินค้าที่เข้าข่ายกระทบความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างละเอียดว่าอัตรา 145% นี้ครอบคลุมกลุ่มสินค้าใดบ้าง

การกล่าวอ้างใหม่ของทำเนียบขาวว่าอัตราภาษีอาจสูงถึง 245% จึงกลายเป็นข้อถกเถียงทันที โดยเฉพาะเมื่อโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หลินเจี้ยน ออกมาตอบโต้ต่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว ระบุว่า “สามารถนำตัวเลขนี้ไปถามสหรัฐฯ เองได้” พร้อมย้ำว่าจีนยืนหยัดในจุดยืนที่ว่า สงครามภาษีไม่มีผู้ชนะ และจีนไม่ต้องการเป็นฝ่ายเปิดศึกทางการค้า แต่ก็ไม่เกรงกลัวหากต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทางการค้า

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเริ่มต้นสงครามภาษี และจีนเพียงแต่ตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของตนเอง รวมถึงหลักความยุติธรรมในระบบการค้าโลก โดยระบุว่า หากสหรัฐฯ ต้องการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ควรหยุดใช้นโยบายกดดันและหันมาเจรจาบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วม

ประเด็นเรื่องภาษี 245% กลายเป็นเครื่องสะท้อนว่าในเกมการค้าและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสองมหาอำนาจโลก ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขภาษีที่สูงหรือต่ำ แต่เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ การเจรจา และการแสดงพลังทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งตัวเลขนี้แม้ดูน่าตกใจ แต่หากไม่มีการชี้แจงอย่างโปร่งใส ก็อาจกลายเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองที่หวังผลเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

ภายใต้คำสั่งบริหารฉบับล่าสุดของทรัมป์ที่สั่งให้กระทรวงพาณิชย์เปิดการสอบสวนตามมาตรา 232 เกี่ยวกับการนำเข้าแร่สำคัญและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ทำเนียบขาวชี้ว่าการพึ่งพาวัตถุดิบจากประเทศที่เป็นภัยคุกคามโดยเฉพาะจีน ถือเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่เพียงในมิติทางเศรษฐกิจแต่รวมถึงความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์

ขณะเดียวกัน จีนก็เพิ่งเดินหมากโต้กลับด้วยการระงับการส่งออกแร่หายากหนัก 6 ชนิดและแม่เหล็กแรร์เอิร์ธ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมระดับสูงทั่วโลก ตั้งแต่ยานยนต์ อวกาศ ไปจนถึงการผลิตอาวุธและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสะท้อนว่าทรัพยากรธรรมชาติไม่ได้เป็นเพียงสินค้าส่งออก แต่กลายเป็น “อาวุธทางการค้า” ที่ทั้งสองฝ่ายพร้อมจะหยิบมาใช้เป็นเครื่องต่อรอง

ในระยะถัดไป หากไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนจากฝั่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับที่มาของอัตราภาษี 245% ที่กล่าวอ้าง ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของนโยบายเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลชุดนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

รายละเอียดเอกสารทำเนียบขาวฉบับเต็มขึ้นภาษีจีน 245%