สถานทูตอเมริกา ร่อนแถลงการณ์จับตาไทยดำเนินคดีม. 112 “พอล แชมเบอร์ส”

09 เม.ย. 2568 | 06:07 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2568 | 06:07 น.

สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการจับกุม "พอล แชมเบอร์ส" นักวิชาการชาวอเมริกันในไทยด้วยข้อหา ม.112 และพ.ร.บ.คอมฯ เรียกร้องเคารพเสรีภาพในการแสดงออก

สหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์แสดงความตกใจต่อกรณีการจับกุม ดร.พอล เวสลีย์ แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกัน และอาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยระบุว่า “กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด” พร้อมเรียกร้องให้ทางการไทยเคารพเสรีภาพในการแสดงออก และรับประกันว่ากฎหมายจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อจำกัดสิทธิดังกล่าว

แทมมี่ บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ว่า “สหรัฐอเมริการู้สึกตกใจต่อการจับกุมนายพอล แชมเบอร์ส พลเมืองอเมริกันในประเทศไทย ด้วยข้อหาความผิดทางอาญาฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพลเมืองของตนในต่างประเทศอย่างจริงจัง และได้ติดต่อกับทางการไทยเกี่ยวกับกรณีนี้แล้ว

แถลงการณ์ดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงความกังวลที่มีมาอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย โดยสหรัฐฯ ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลไทยรับรองว่า การบังคับใช้กฎหมายจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครอง พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อ ดร.พอล แชมเบอร์ส และให้ความช่วยเหลือทางกงสุลอย่างเต็มที่

“ในฐานะพันธมิตรของประเทศไทยตามสนธิสัญญา เราจะติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อนายพอล แชมเบอร์ส” แทมมี่ บรูซ กล่าว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพมหานครก็ได้เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมแล้ว และได้ร้องขอเข้าพบ ดร.พอล แชมเบอร์ส เพื่อให้แน่ใจถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถให้การสนับสนุนเพิ่มเติมตามความจำเป็น

โดยเมื่อเช้าวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ดร.พอล แชมเบอร์ส ได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภิสา ไวฑูรเกียรติ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ จังหวัดเชียงใหม่ร่วมให้การสนับสนุนในกระบวนการทางกฎหมาย

พนักงานสอบสวนได้แสดงหมายจับตามคำสั่งศาลจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งระบุข้อหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” รวมถึง “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก” หลังจากนั้น ดร.พอล ถูกนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือและส่งศาลจังหวัดพิษณุโลกในวันเดียวกัน

ในเวลาต่อมา ศาลจังหวัดพิษณุโลกมีคำสั่ง ไม่ให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า ดร.พอล เป็นชาวต่างชาติ คดีมีอัตราโทษสูง และตำรวจมีความเห็นคัดค้านการให้ประกันตัว ซึ่งในขณะนี้เขายังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องพิเศษใต้ถุนศาลจังหวัดพิษณุโลก เพื่อรอฟังคำสั่งจากศาลอุทธรณ์ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาคำร้องอุทธรณ์การไม่ให้ประกันตัวต่อไป

ดร.นภิสา ไวฑูรเกียรติ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพภาคที่ 3 แจ้งความเอาผิดนักวิชาการด้วยตนเอง โดยไม่มีหมายเรียกมาก่อน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับงานวิจัยเชิงวิพากษ์ที่ ดร.พอล ได้จัดทำขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของกองทัพในเชิงเศรษฐกิจและการเมืองของไทย

ดร.พอล เวสลีย์ แชมเบอร์ส ดำรงตำแหน่งอาจารย์และที่ปรึกษาพิเศษด้านกิจการต่างประเทศของศูนย์อาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีผลงานวิชาการหลากหลายเกี่ยวกับบทบาทของกองทัพไทยในบริบททางการเมืองและเศรษฐกิจ และเป็นนักวิชาการต่างชาติที่ศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือนกับทหารในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน