ทรัมป์คัมแบ็ค! ขอทวงบัลลังก์ สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 67

15 ก.พ. 2566 | 03:12 น.

พกความมั่นใจมาเต็มร้อย “โดนัลด์ ทรัมป์” ลั่นถูกปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2563 ขอกลับมาทวงตำแหน่งคืนในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า นัดล้างตากำลังจะเริ่มขึ้น   

 

การเมืองสหรัฐ ทวีความคึกคักมากขึ้นเมื่อ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ได้ประกาศตัวพร้อมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ววานนี้ (14 ก.พ.) ขณะที่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ใน ปี 2567 ขยับใกล้เข้ามาทุกที

ทางด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ที่ขณะนี้คะแนนนิยมกำลังถดถอย คาดว่าจะทำการประกาศตัวลงแข่งขันในไม่ช้า

ทั้งนี้ ผลการสำรวจของ Reuters/Ipsos พบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวเก็งที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า โดยในการสำรวจความคิดเห็น (ระหว่างวันที่ 6-13 ก.พ.ที่ผ่านมา) ของประชาชนชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน พบว่า

  • นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเสียงสนับสนุนสูงสุดที่ 43%
  • นายรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ได้รับเสียงสนับสนุน 31%
  • และ นางนิกกี ฮาลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์ แคโรไลนา ได้คะแนนเสียงน้อยสุด 4%

เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว (2565) นายทรัมป์ประกาศว่า เขาพร้อมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 เพื่อให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ตามสโลแกนเดิมที่เขาเคยใช้ในช่วงการหาเสียงครั้งผ่านๆมา

"อเมริกาต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" ทรัมป์กล่าวไว้

อเมริกาต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

"เราเคยเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และในอีกไม่ช้า เราก็จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และเพื่อให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่ได้อีก ในวันนี้ (14 ก.พ.) ผมจึงขอประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ(ในปีหน้า)" นายทรัมป์กล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในรีสอร์ตมาร์อาลาโก เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้แพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 (พ.ศ.2563) ต่อนายไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ โดยอ้างว่าถูกปล้นชัยชนะเนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้ง

รายงานข่าวระบุว่า หากนายทรัมป์และปธน.ไบเดนต่างประสบความสำเร็จในการได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในการสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้าจริงๆ ก็จะเป็นการรีแมทช์ (rematch) คู่ชิงในปี 2563 และถือเป็นการแก้มือของนายทรัมป์ ซึ่งแม้จะเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้การเลือกตั้งก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าเขายังคงมีฐานเสียงจำนวนมากที่ยังคงจงรักภักดีและพร้อมที่จะสนับสนุนให้เขากลับเข้าทำเนียบขาวอีกครั้ง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังเพลี่ยงพลั้งด้านคะแนนนิยม

"ไบเดน" คะแนนนิยมลดลง แม้ในกลุ่มสมาชิกเดโมแครต

เมื่อเร็ว ๆนี้ สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของประชาชน จัดทำโดยเอพีร่วมกับศูนย์วิจัย NORC Center for Public Affairs Research พบว่า ชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคเดโมเเครต “ส่วนใหญ่” คิดว่า การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หนึ่งสมัย (2 ปี) ถือว่าเพียงพอแล้ว

ผลโพลล์ครั้งนี้สอบถามประชาชนจำนวน 1,068 คนระหว่างวันที่ 26 - 30 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดน ได้ประกาศถึง “ความตั้งใจ” ที่จะลงเเข่งขันในการเลือกตั้งเพื่อรักษาตำแหน่งการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองในปีหน้า

ผลปรากฏว่า ในบรรดาชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคเดโมเเครตซึ่งเป็นพรรคของปธน.ไบเดนนั้น มีเพียง 37% ที่ต้องการให้ไบเดนลงเลือกตั้งเป็นผู้นำสหรัฐสมัยที่สอง นับว่าลดลงจาก 52% ช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งส.ส.และส.ว.สหรัฐชุดใหม่เข้าสภาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่เเล้ว (2565)

ถึงแม้ ปธน.ไบเดน จะประกาศความสำเร็จในการผลักดันกฎหมายหลายฉบับ และกล่าวถึงความสามารถของตนในการบริหารประเทศ แต่ก็มีคนจำนวนไม่มากในการสำรวจครั้งนี้ที่ให้คะเเนนไบเดนในระดับสูง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อทำการสัมภาษณ์ผู้ตอบเเบบสอบถามหลังทำโพลล์ คนจำนวนมากเห็นว่าอายุของไบเดนในวัย 80 ปีนั้น เป็นปัจจัยลบ ผู้ตอบเเบบสอบถามส่วนน้อย หรือราว 41% ยอมรับในผลงานของไบเดน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเท่า ๆ กับเมื่อตอนสิ้นปีที่ผ่านมา