"ยูเครน"อ่วมตกอยู่ในความมืด รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโรงไฟฟ้า

ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) ผู้ให้บริการสายส่งไฟฟ้าของยูเครนเปิดเผยว่า กรุงเคียฟและอีก 7 ภูมิภาคโดยรอบ ประกอบด้วย เชอร์นิฮิฟ เชอร์คาซี ซีโทมีร์ ซูมี ปอลตาวา และคาร์คิฟ ตกอยู่ในความมืด เนื่องจากรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและแหล่งน้ำ

ยูเครนต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับเป็นระยะและระบบประปาขัดข้อง นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการยิงขีปนาวุธและใช้โดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว (ต.ค.) หลังจากที่มีรายงานว่า ยูเครนประสบความสำเร็จในการยึดคืนพื้นที่หลายแห่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการระเบิดบนสะพานเคิร์ช ซึ่งเชื่อมโยงการยึดครองไครเมียกับรัสเซียแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรัสเซียผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2557

รัสเซียปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่า โดรนที่ใช้โจมตีในยูเครนนั้นมาจากอิหร่าน แต่ล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ (5 พ.ย.) ว่าเตหะรานป้อนโดรน "จำนวนจำกัด" แก่มอสโก ทว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้า รัสเซียเปิดปฏิบัติการรุรานยูเครนเต็มรูปแบบในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ด้านนายวาเลนติน เรซนิคเชนโก ผู้ว่าการภูมิภาคดนีปรอแปตร็อวสก์ ที่อยู่ทางตอนกลางของยูเครน เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียเข้าโจมตีเมืองและพื้นที่โดยรอบด้วยปืนใหญ่ ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัย และมีอาคารด้านสาธารณูปโภค รวมถึงรวมถึงท่อส่งก๊าซได้รับความเสียหาย
 

ตามรายงานของทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บอีก 8 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่มีการสู้รบรุนแรงคือในภูมิภาคเคอร์ซอน ที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แต่ถูกกองทัพยูเครนยึดคืนมาได้ ซึ่งยูเครนระบุด้วยว่า กองทัพรัสเซียยังคงลักพาตัวประชาชนในท้องถิ่น