ไต้หวันเต้น จีนซ้อมยิงขีปนาวุธวันแรกตกในเขตน่านน้ำรอบเกาะ 11 ลูก!  

05 ส.ค. 2565 | 01:50 น.

กลาโหมไต้หวันเผย จีนยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 11 ลูกซึ่งลอยไปตกในน่านน้ำรอบไต้หวันในการซ้อมรบครั้งใหญ่แบบใช้กระสุนจริงวันแรกวานนี้ (4 ส.ค.)  หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แวะเยือนไต้หวันเมื่อวันอังคารและเดินทางออกไปเมื่อวันพุธ (3 ส.ค.)

กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพจีน ได้ยิง ขีปนาวุธวิถีโค้งตงเฟิง (Dongfeng) ตกในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางเหนือ ใต้ และตะวันออกของเกาะ ไต้หวัน โดยก่อนหน้านี้ จีนแจ้งว่าจะมีการซ้อมรบแบบใช้กระสุนจริงบริเวณเขตน่านน้ำ 6 แห่งรอบไต้หวันตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันอาทิตย์ (4-7 ส.ค.) แต่การซ้อมรบที่เกิดขึ้นจริงเมื่อวานนี้นั้น ได้ขยายไปถึงเขตน่านน้ำที่ 7 และจีนยังจะเพิ่มเวลาการซ้อมรบไปอีกหนึ่งวันด้วย

 

ขณะที่สื่อของทางการจีนระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้รวมถึง "เครื่องยิงจรวดพิสัยไกล" และ "ขีปนาวุธแบบมาตรฐาน" ซึ่งผลของการทดสอบประสบความสำเร็จตามที่จีนคาดไว้

สื่อจีนเผยแพร่ภาพการซ้อมรบวานนี้ (4 ส.ค.) ขอบคุณภาพจาก CCTV

การซ้อมรบของจีนครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและคุกคามมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางใต้ของไต้หวันไม่ถึง 20 กิโลเมตร และเป็นการซ้อมรบที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้การที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐ ซึ่งถือเป็นผู้มีอำนาจระดับสูงสุดเป็นอันดับสามในรัฐบาลสหรัฐ รองจากตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อคืนวันอังคาร (2 ส.ค.) และรุ่งขึ้นยังได้พบหารือกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันด้วย ก่อนที่จะเดินทางออกจากไต้หวันเมื่อวันพุธ (3 ส.ค.) ซึ่งจีนมองว่าการเยือนไต้หวันโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐในครั้งนี้ เป็นการท้าทายต่ออธิปไตยเหนือดินแดนของจีนและเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว

นายดรูว์ ธอมป์สัน อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ปัจจุบันเป็นนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ มองว่า การแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของจีนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการตอบโต้การเยือนของนางเพโลซีแล้ว ยังถือเป็นการแสดงให้ประชาชนจีนเองเห็นว่า รัฐบาลของพวกเขามิได้อยู่นิ่งเฉยในเรื่องนี้

 

“จีนใช้การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็นการข่มขู่และชวนเชื่อมากกว่าจะเป็นการโจมตีจริง ๆ” ธอมป์สันให้ความเห็น และว่า ขณะนี้กองทัพจีนอยู่ระหว่างการซ้อมรบซึ่งเป็นวาระช่วงฤดูร้อนประจำปี

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การซ้อมรบครั้งนี้คือ “การซ้อมใหญ่” ในกรณีที่จีนตัดสินใจบุกไต้หวัน รวมทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่ากองทัพจีนสามารถปิดล้อมไต้หวันได้อย่างไร หลายฝ่ายวิตกว่า อาจเกิดการคำนวณที่ผิดพลาดระหว่างการซ้อมรบจนทำให้เกิดการบาดหมางครั้งใหญ่ขึ้นได้

 

การซ้อมรบของจีนครั้งนี้ ต้องการแสดงให้ประชาชนจีนเห็นว่า รัฐบาลของพวกเขามิได้เพิกเฉยต่อการยั่วยุของสหรัฐ

กองทัพไต้หวันแถลงว่า จะจับตามองกิจกรรมทางทหารที่ "ไร้เหตุผล" ของจีนอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมในกรณีทีเกิดความขัดแย้ง แต่จะไม่พยายามทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันระบุว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการละเมิดอธิปไตยเหนือน่านน้ำของไต้หวันและถือเป็นการ "ปิดล้อม" ไต้หวันด้วย

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวผ่านสถานีวิทยุ National Public Radio วานนี้ (4 ส.ค.) ว่า "เราเชื่อว่าสิ่งที่จีนทำอยู่นั้นไร้ความรับผิดชอบ และยิ่งเป็นการทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นโดยไม่จำเป็น"

 

ซัลลิแวนกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสหรัฐคือการสื่อสารอย่างชัดเจนและแน่นอนระหว่างกันทั้งแบบเปิดเผยและเป็นส่วนตัวกับทางการจีน ว่าสหรัฐจะไม่ยอมถูกบีบบังคับหรือถูกขัดขวาง ให้ต้องงดเว้นภารกิจที่ทำอยู่ในแถบแปซิฟิกตะวันตก และขอให้จีนเข้าใจในเรื่องนี้

 

"เราไม่ต้องการยกระดับความขัดแย้ง แต่ก็จะไม่ยอมถูกขัดขวางเช่นกัน" ซัลลิแวนกล่าว

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า สายการบินบางรายรวมทั้งโคเรียน แอร์ไลนส์ ของเกาหลีใต้ ได้สั่งยกเลิกหรือปรับเส้นทางการบินสำหรับเที่ยวบินเข้าและออกจากไต้หวันระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคมนี้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้อมรบของกองทัพจีน ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่ในไต้หวันยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ แม้จะตระหนักดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ชาวไต้หวันต้องรับมือกับการข่มขู่คุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว