“ไบเดน” ปูด ปูตินจ่อใช้ “อาวุธเคมี-ชีวภาพ” กับยูเครน

23 มี.ค. 2565 | 00:55 น.

ปธน.ไบเดน ผู้นำสหรัฐยัน รัสเซียกำลัง "หลังชนฝา" เตรียมสร้างสถานการณ์เพื่อนำอาวุธเคมี-ชีวภาพมาใช้ในการโจมตียูเครน ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนอันตรายจากการที่รัสเซียสามารถนำข้อมูลอุตุนิยมวิทยาของชาติตะวันตกไปใช้คำนวณทิศทางลมและสภาพอากาศเพื่อการวางแผนใช้อาวุธเคมี

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวในงานสัมมนาทางเศรษฐกิจวานนี้ (22 มี.ค.) ระบุว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกำลังอยู่ในสภาพ “หลังชนฝา” ในกรณี ยูเครน และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ปูตินจะหันไปใช้ อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ เพื่อเผด็จศึกครั้งนี้

 

ผู้นำสหรัฐยังกล่าวด้วยว่า รัสเซียกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการ “จัดฉาก” ครั้งใหม่ “พวกเขาบอกว่ายูเครนมีอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมี นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัสเซียเองกำลังพิจารณาว่าจะใช้สองสิ่งนี้” ไบเดนกล่าว และว่า การกระทำดังกล่าวของรัสเซียจะกระตุ้นให้เกิดการตอบโต้ที่รุนแรง ซึ่งเขาเชื่อว่า ปธน.ปูตินรู้ดีว่าจะมีผลกระทบที่ร้ายแรงตามมาจากพันธมิตรนาโต (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ)

 

การเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ของปธน.โจ ไบเดน นับว่าสอดคล้องกับการออกมาเปิดเผยข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญซึ่งเตือนว่า รัสเซียอาจใช้ “ข้อมูลอากาศ” หรือ “ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา”มาใช้ในการวางแผนโจมตียูเครนด้วยอาวุธเคมี

“ไบเดน” ปูด ปูตินจ่อใช้ “อาวุธเคมี-ชีวภาพ” กับยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงานของรัสเซียยังคงได้รับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่อัพเดทอยู่เสมอจากรัฐบาลชาติตะวันตกและรัฐบาลอื่น ๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเผยว่า ข้อมูลอากาศเหล่านี้สามารถถูกนำมาใช้เพื่อการวางแผนโจมตียูเครนด้วยอาวุธเคมีหรือชีวภาพ

 

ในช่วงระยะไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลชาติพันธมิตรซึ่งรวมทั้งอังกฤษ ได้ออกมาเตือนในทิศทางเดียวกันว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพกับยูเครน ซึ่งในขณะนี้ ข้อมูลสภาพอากาศจากฝั่งตะวันตก รวมทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักร ยังคงถูกส่งไปยังหน่วยงานของรัสเซีย รวมถึงข้อมูลการวัดความเร็วและทิศทางลม, แสงแดด, ปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงเวลาจริง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญต่อการวางแผนโจมตีโดยใช้อาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมี

 

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์ยังระบุไม่ได้ว่า ประเทศเหล่านี้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยูเครนโดยตรงไว้มากน้อยเพียงใด แต่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ข้อมูลสภาพอากาศจากต่างประเทศจะนำไปสู่การพยากรณ์สภาพอากาศในยูเครนได้

ทางด้านองค์กรเพื่อการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาแห่งยุโรป (EUMETSAT) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาลตั้งอยู่ในเยอรมนี กล่าวว่า องค์กรฯ ยังคงให้บริการฟีดข้อมูลแก่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัสเซีย แม้ว่าหน่วยงานอื่น ๆ ในยุโรปอย่างน้อย 3 แห่งตัดสินใจระงับการให้ข้อมูลไปแล้ว

 

ทั้งนี้ จุดยืนที่แตกต่างกันขององค์กรตอกย้ำให้เห็นว่า การใช้กำลังรุกรานยูเครนของรัสเซียนั้นทำให้หน่วยงานทางวิทยาศาสตร์บางส่วนต้องเลือกระหว่างหลักการที่องค์กรยึดถือ ซึ่งก็คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์โดยเสรี กับความเสี่ยงในการให้ข้อมูลที่อาจใช้โจมตีพลเรือนได้

ข้อมูลสภาพอากาศจากต่างประเทศจะนำไปสู่การพยากรณ์สภาพอากาศในยูเครนได้

โฆษกของ EUMETSAT กล่าวว่า องค์กรได้ระงับการส่งข้อมูลจากดาวเทียมของสหภาพยุโรป (อียู) ไปยังรัสเซียและเบลารุสตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรป แต่ยังคงส่งต่อข้อมูลจากดาวเทียมอื่น ๆ ของยุโรปไปยังสองประเทศดังกล่าว รวมถึงข้อมูลสังเกตการณ์ด้านอุตุนิยมวิทยาจากรัฐบาลทั่วโลก

 

"จุดยืนของ EUMETSAT คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุตุนิยมวิทยาทั่วโลกอย่างเสรี ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนการพยากรณ์อากาศทั่วโลก และเป็นสิ่งที่เรายังดำเนินการมาจนถึงตอนนี้" นายพอล คูเนต หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ EUMETSAT กล่าว

 

สหรัฐจับมือยุโรปย้ำจุดยืนหนุนยูเครน

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ไบเดน ได้โทรศัพท์หารือโดยตรงกับผู้นำชาติยุโรป ประกอบด้วยนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายโอลาฟ โชลซ์ นายกฯเยอรมนี และนายมาริโอ ดรากี นายกฯอิตาลี เกี่ยวกับสงครามในยูเครน และย้ำการสนับสนุนของพวกเขาที่มีต่อยูเครนอย่างต่อเนื่อง

 

ทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำทั้งหลายได้หารือถึงข้อห่วงกังวลอย่างจริงจังของพวกเขาเกี่ยวกับยุทธวิธีรุนแรงโหดร้ายที่รัสเซียนำมาใช้ในการโจมตียูเครน ซึ่งรวมถึงการโจมตีพลเรือน ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐและยุโรปได้เน้นย้ำถึงการให้ความสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ชาวยูเครนที่พยายามปกป้องประเทศของตนจากการรุกรานของรัสเซีย ตลอดจนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวยูเครนหลายล้านคนที่หลบหนีความรุนแรง

 

ปธน.ไบเดนมีกำหนดการเดินทางเยือนยุโรปในปลายสัปดาห์นี้เพื่อพบกับพันธมิตรนาโต สหภาพยุโรป และจี 7 ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม จากนั้นจะเดินทางไปกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีโปแลนด์