ถล่มแหลกกรุงเคียฟ รัสเซียเล็งเป้าศูนย์การค้า! อ้างยูเครนแอบใช้เก็บจรวด

22 มี.ค. 2565 | 06:01 น.

การโจมตียูเครนโดยกองทัพรัสเซียย่างเข้าสัปดาห์ที่สี่ การระดมถล่ม "กรุงเคียฟ" เมืองหลวงของยูเครนยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดกลาโหมรัสเซียเผยได้ใช้อาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูง ยิงถล่มศูนย์การค้าแห่งหนึ่งที่ยูเครนแอบใช้เป็นคลังเก็บจรวดและอาวุธ

อัพเดท การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน การถล่มโจมตี กรุงเคียฟ (Kyiv) เมืองหลวงของ ยูเครน ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่าย รัสเซีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ว่า รัสเซียได้โจมตีศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟด้วยอาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูง เนื่องจากกองกำลังยูเครนใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นโกดังเก็บจรวดและที่บรรจุกระสุนเครื่องยิงจรวด

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศูนย์การค้าในกรุงเคียฟถูกโจมตีในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (20 มี.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และอาคารบริเวณใกล้เคียงถูกทำลาย เหลือแต่กลุ่มควันจากเศษหินเศษปูน รวมถึงซากรถไหม้ตลอดแนวหลายร้อยเมตร

 

ทั้งนี้ พลตรีอิกอร์ โคนาเชนกอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พื้นที่ใกล้ศูนย์การค้าถูกใช้เป็นฐานขนาดใหญ่สำหรับเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์และใช้เป็นที่บรรจุกระสุนกองเครื่องยิงจรวด

ศูนย์การค้าในกรุงเคียฟถูกโจมตีในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (20 มี.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย

"ในคืนวันที่ 21 มี.ค. อาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียได้ทำลายกองเครื่องยิงจรวดของยูเครนและคลังกระสุนในศูนย์การค้าที่ปิดทำการอยู่" พลตรีโคนาเชนกอฟกล่าว พร้อมแสดงวิดีโอที่เขาอ้างว่า ยูเครนใช้ศูนย์การค้าเป็นที่เก็บอาวุธและที่บรรจุกระสุน

 

ในช่วงเวลานานนับสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้บุกระดมโจมตียูเครนจนมีผู้เสียชีวิตไปหลายพันราย ขณะที่ประชาชนนับ 10 ล้านคนต้องลี้ภัย และความตึงเครียดของสถานการณ์สู้รบในขณะนี้ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าปัญหาจะลุกลามไปเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา

เมืองหลวง "เคียฟ" ถูกถล่มโจมตีอย่างหนัก

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร" ในยูเครนเป็นเรื่องจำเป็น เพราะสหรัฐกำลังใช้ยูเครนเป็นสปริงบอร์ดมาคุกคามรัสเซีย รัสเซียจึงต้องปกป้องประชาชนเชื้อสายรัสเซียที่ถูก "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" โดยกองทัพยูเครน 

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งยูเครนและศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice หรือ ICJ) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวของรัสเซียนั้นไม่มีหลักฐานใดๆมารองรับ