อังกฤษยกเลิกการให้ผู้เดินทางตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ มีผล 7 ม.ค.

05 ม.ค. 2565 | 23:42 น.

นายกฯ อังกฤษประกาศยกเลิกข้อกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางมาอังกฤษต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ เป็นเวลา 2 วันก่อนเดินทางถึง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค. เป็นต้นไป

สำนักข่าวบีบีซี สื่อใหญ่ของอังกฤษรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี อังกฤษ ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางมาอังกฤษต้องมี ผลตรวจโควิด เป็นลบ เป็นเวลา 2 วันก่อนเดินทางถึง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค. เป็นต้นไป โดยผู้เดินทางจะสามารถใช้ชุดตรวจเร็วตรวจเชื้อตัวเองในวันที่ 2 หลังจากเดินทางมาถึง

 

นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาจะไม่ต้องกักตัวจนกระทั่งผลตรวจออกมาเป็นลบด้วยตั้งแต่ 11 ม.ค. เป็นต้นไป และสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษที่ตรวจโควิดด้วยชุดตรวจเร็วแล้วผลออกมาเป็นบวกแต่ไม่มีอาการแต่อย่างใด ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อพีซีอาร์อีกรอบอีกต่อไป

นายบอริส จอห์นสัน

นายบอริส จอห์นสัน ประกาศระหว่างตอบกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ (5 ม.ค.) ว่าอังกฤษจะรับมือกับสถานการณ์ด้วย "แผนบี" (Plan B) ต่อไป ซึ่งเป็นการบังคับให้คนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและทำงานจากบ้านถ้าทำได้

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า นายเคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วยเนื่องจากเพิ่งตรวจพบว่าเขาติดโควิด

 

เหตุผลเบื้องหลังการผ่อนคลายมาตรการตรวจเข้ม

ณ วันที่ 5 ม.ค. อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 194,747 ราย และมีผู้เสียชีวิต 334 รายที่เสียชีวิตหลังจากติดเชื้อภายใน 28 วัน

 

ก่อนหน้านี้ นายทิม ฮอว์กินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายพนักงานของกลุ่มแมนเชสเตอร์ แอร์พอร์ตส (เอ็มเอจี) บอกกับรายการทูเดย์ ของบีบีซีว่า "มีมูลฐานที่จะให้ยกเลิกการตรวจโควิดทั้งหมด" กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในอังกฤษเองที่มีเป็นจำนวนมาก "เราผ่านพ้นจุดที่การจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และหากมันไม่เกิดประโยชน์ เราก็ไม่ควรจะทำ แต่ควรยกเลิกข้อกำหนดเหล่านั้นเสีย"นายฮอว์กินส์กล่าว

 

ทั้งนี้ กลุ่มบริการสายการบินของอังกฤษระบุว่า การคงมาตรการตรวจโควิดเอาไว้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมสายการบิน ทำให้ผู้โดยสารขาดความมั่นใจและต้องการเดินทางน้อยลง

 

เอ็มเอจีได้ส่งผลการวิจัยที่ทางกลุ่มได้ว่าจ้างให้ศึกษา โดยอ้างว่า การตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้ามาในอังกฤษมีผลน้อยมาก หรือไม่มีผลใด ๆ เลยต่อการแพร่เชื้อโอมิครอน ขณะที่การนำมาตรการที่เข้มงวดมาใช้ทำให้จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินในเครือลดลงมากกว่า 30% นับตั้งแต่มีการออกมาตรการควบคุมการระบาดของโอมิครอน

อังกฤษยกเลิกการให้ผู้เดินทางตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ มีผล 7 ม.ค.

อังกฤษมีข้อกำหนดอย่างไรในปัจจุบัน

ปัจจุบัน อังกฤษกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางมายังอังกฤษที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จะต้อง :

  • ได้รับการตรวจด้วยชุดตรวจเร็ว (lateral flow test) หรือ ตรวจแบบพีซีอาร์ ที่จะต้องวิเคราะห์ผลตรวจในห้องแล็บ
  • จะต้องจองตรวจพีซีอาร์ล่วงหน้าโดยชำระเงินเอง ก่อนได้รับการตรวจเมื่อเดินทางเข้ามาแล้ว
  • จะต้องกักตัวเองในสถานที่พักจนกว่าจะได้รับผลตรวจ
  • จะต้องกรอกแบบฟอร์มรายละเอียดติดต่อ (passenger locator form) ก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง
  • ชุดตรวจเร็วให้ผลแม่นยำ

สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างอิงดร.ไมค์ ทิลเดสลีย์ นักระบาดวิทยา ที่ระบุว่า ผู้ที่ใช้ชุดตรวจเร็ว (lateral flow test) และพบว่ามีผลเป็นบวก มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิดแน่นอน ดังนั้น ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบว่าติดเชื้อ ส่วนผลตรวจที่เป็นลบอาจยังทำให้สงสัยได้ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ ดร.ทิลเดสลีย์ หวังว่าการตรวจแบบชุดตรวจเร็วเพียงอย่างเดียวจะไม่ส่งผลให้ต้องสูญเสียข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการแยกแยะเชื้อกลายพันธุ์ในอนาคต

 

ปัจจุบัน อังกฤษกำหนดให้ผู้มีผลตรวจด้วยชุดตรวจเร็วเป็นบวก จะต้องได้รับการยืนยันผลด้วยการตรวจพีซีอาร์อีกครั้ง และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่วันที่มีอาการ

 

ไทยตัดสินยืดเวลาเทสต์แอนด์โกหรือไม่ในวันศุกร์นี้

ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือรายละเอียดที่จะนำเสนอในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันศุกร์ที่ 7 ม.ค. นี้ โดยจะพิจารณาเกี่ยวกับระบบเข้าประเทศผ่านรูปแบบเทสต์แอนด์โก (Test and Go) ภายหลังกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค. ยืดเวลาการระงับเทสต์แอนด์โกไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. นี้

 

นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาเรื่องการปรับพื้นที่สีตามสถานการณ์การติดเชื้อของแต่ละจังหวัด เพื่อจำกัดจำนวนคน การรวมกลุ่มทำกิจกรรม และการอนุญาตดื่มสุราในร้านอาหาร

 

การปรับมาตรการควบคุมโรค จากเดิมที่มีแนวโน้มว่าจะพิจารณาเปิดสถานบันเทิงในช่วงกลางเดือน ม.ค. แต่ในช่วงปีใหม่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ที่ไม่จัดการภายใต้มาตรการที่จะทำให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด โดย ศบค. จะตัดสินใจว่าจะให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือไม่