อังกฤษจ่อใช้ Plan B ยกระดับคุมเข้ม "โอมิครอน" หลังพบผู้ป่วยตายแล้วรายแรก  

13 ธ.ค. 2564 | 23:11 น.

นายกฯอังกฤษเรียกร้องรัฐสภาลงมติวันนี้ (14 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ไฟเขียวใช้ Plan B หรือ “แผนสอง” ยกระดับมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดโอมิครอน หลังพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโอมิครอนเสียชีวิตแล้วรายแรก คาดจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในกรุงลอนดอนภายใน 48 ชั่วโมง

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรียกร้องให้ รัฐสภาอังกฤษ ให้การอนุมัติ Plan B ในการลงมติในวันอังคาร (14 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษ) เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยเขาได้กล่าวปรามสมาชิกรัฐสภาที่คิดจะคว่ำมาตรการดังกล่าว ควรตระหนักว่าไม่ควรนิ่งนอนใจในการจัดการกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้

 

"ผมคิดว่าทุกคนควรตระหนักว่าโอมิครอนสร้างความเสี่ยงอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชน และขณะนี้กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมคิดว่าเราไม่ควรนิ่งนอนใจ" นายจอห์นสันกล่าว และยืนยันข่าวผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่งในอังกฤษได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

 

ผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในอังกฤษที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

 

"เป็นเรื่องน่าเศร้าที่โอมิครอนทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และทำให้มีผู้ป่วยอย่างน้อย 1 รายเสียชีวิต ดังนั้น ผมคิดว่าเราต้องปรับแนวคิดใหม่ จากเดิมที่คิดว่าไวรัสนี้ไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรง และให้ตระหนักถึงความรวดเร็วในการแพร่ระบาดในหมู่ประชาชน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดที่เราทำได้คือการให้ทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3" นายจอห์นสันกล่าว

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

รัฐบาลอังกฤษต้องการยกระดับการคุมเข้มมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ อังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 10.8 ล้านราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล ขณะที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 146,000 ราย

 

ทั้งนี้ การประกาศใช้มาตรการ Plan B จะทำให้ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้าน และต้องมีการแสดงบัตร COVID passport ก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก เช่น การแข่งขันฟุตบอล หรือการแสดงดนตรี

 

วันเดียวติดเชื้อเพิ่มกว่า 54,000 ราย ดันยอดรวมทะลุ 10,870,000 ราย

ด้านกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (ของวันที่ 13 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 54,661 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 10,873,468 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 38 ราย สู่ระดับ 146,477 ราย

นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และจะเป็นสายพันธุ์หลักในกรุงลอนดอนภายในเวลา 48 ชั่วโมง

 

"ยังไม่เคยมีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใดที่ระบาดเร็วแบบนี้มาก่อน และในขณะที่โอมิครอนคิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของผู้ติดเชื้อในอังกฤษ แต่ก็สูงถึง 44% ในกรุงลอนดอน และเราคาดว่าโอมิครอนจะเป็นสายพันธุ์หลักในกรุงลอนดอนภายในเวลา 48 ชั่วโมง"

 

ผลการวิจัยจากวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อนลอนดอน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.) ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจทำให้อังกฤษเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกเกือบ 75,000 รายในฤดูหนาวนี้ หากรัฐบาลอังกฤษไม่ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดให้เข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่

 

ข้อมูลอ้างอิง