เปิดประวัติ “ฮุน มาเนต” ผู้สืบอำนาจ “ฮุน เซน”

07 ส.ค. 2566 | 06:09 น.

“ฮุน มาเนต” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของสมเด็จฮุน เซน ที่เป็นผู้นำรัฐบาลกัมพูชามายาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ ได้รับโปรดเกล้าฯจากกษัตริย์นโรดม สีหมุนี แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจผู้เป็นบิดาแล้ววันนี้ (7 ส.ค.) เรามาดูโปรไฟล์ของผู้นำกัมพูชาคนใหม่ เขาคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดา  

 

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ฮุน มาเนต เป็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แล้ววันนี้ (7 ส.ค.) สมความตั้งใจของสมเด็จฮุน เซน ผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นผู้ปลุกปั้นและเตรียมการปูทางให้บุตรชายมาเนิ่นนานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุน เซน กล่าวชัดในงานเปิดระบบบำบัดน้ำเสียที่เมืองสีหนุวิลล์ ระบุว่า พลเอกฮุน มาเนต บุตรชายคนโตของเขา ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา จะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งผ่านระบบการเลือกตั้ง โดยเขาเองในฐานะพ่อ จะสนับสนุนบุตรชายบนเส้นทางนี้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าในเวลานั้น ยังไม่มีใครรู้ว่าการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาของฮุน มาเนต แทนที่บิดา จะใช้เวลายาวนานแค่ไหน เพราะสมเด็จฮุน เซน ไม่เคยระบุวันเวลาแน่ชัด รู้เพียงแต่ว่า ฮุน เซน เองในวัยกว่า 70 ปีของเขา หมายมั่นปั้นมือกับบุตรชายคนนี้ ผู้ซึ่งมีดีกรีการศึกษาจากอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจการปกครองรัฐบาลกัมพูชาคนต่อไป

ตัวสมเด็จฮุน เซนเองนั้น (เขาได้รับพระราชทานคำนำหน้านี้จากกษัตริย์กัมพูชา คำเรียกเต็ม ๆ คือ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ) เป็นหนึ่งในผู้นำที่ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานที่สุดในโลก เขามักชื่นชมความสำเร็จของลูกๆ ว่าเป็นผลจากการศึกษาไม่ใช่การใช้เส้นสายแต่อย่างใด

ฮุน เซน ผู้เป็นพ่อพร้อมดัน "ฮุน มาเนต" บุตรชายคนโตสืบทอดอำนาจ

งั้นเรามาดู ประวัติความเป็นมาของพลเอกฮุน มาเนต ก่อนเดินตามรอยผู้เป็นพ่อเข้าสู่เส้นทางการเมืองกัน

ฮุน มาเนต เป็นบุตรชายคนโตวัย 44 ปีของ ฮุน เซน กับนางบุนรานี เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2520 ที่จังหวัดกำปงจาม  มีพี่น้องอีก 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน (และยังมีน้องสาวบุญธรรมอีก 1 คน)

ฮุน มาเนต เป็นบุตรคนที่สอง แต่เป็นบุตรชายคนแรก เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยกองทัพบกสหรัฐอเมริกาที่เมืองเวสต์พอยต์ รัฐนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ. 1999 (พศ. 2542) จากนั้นได้ศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์จนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ

ความภูมิใจของคนเป็นพ่อ

เมื่อสำเร็จการศึกษาและเดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็เข้ารับราชการทหารกองทัพกัมพูชา ติดยศร้อยตรี สังกัดกองพลน้อยที่ 70 จากนั้น ฮุน มาเนต ได้รับการประดับยศพลจัตวา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552 และเลื่อนเป็นพลตรี และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 70 ซึ่งมีหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย และตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ผู้นำ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

ต่อมาในปี 2562 ก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

สถานภาพการสมรส ฮุน มาเนต สมรสแล้วกับภรรยาชื่อ เพชร จันมุนี มีบุตรชาย 1 คนวัยกำลังน่ารัก และเป็นหลานชายคนโปรดของสมเด็จฮุน เซน

สมเด็จฮุน เซน กับพล.อ.ฮุน มาเนต บุตรชาย และหลานชายตัวน้อย ในปาร์ตี้วันเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2566  

พลเอกฮุน มาเนต

สมเด็จฮุน เซน กล่าวปกป้องการสนับสนุนบุตรชายตัวเองในทางการเมือง โดยระบุว่าในประเทศญี่ปุ่นก็มีตระกูลการเมือง เช่น ตระกูล"อาเบะ" ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาหลายชั่วอายุคน อย่างไรก็ตาม การประกาศสนับสนุนบุตรชาย พลเอกฮุน มาเนต ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของกัมพูชานั้น ก็ไม่ได้แปลว่า เขากำลังสร้างตระกูลการเมืองขึ้นมาในกัมพูชา เพราะหากฮุน มาเนต จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ต้องมาทางกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ฮุน มาเนต ได้รับเลือกตั้งเป็นสส.ราชธานีพนมเปญ จากพรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party) หรือ CPP ที่สมเด็จฮุน เซน เป็นประธานพรรค

อนาคตทางการเมืองของพลเอกฮุน มาเนต จึงนับว่าถูกปูทางสดใสมาตั้งแต่ต้น จากอำนาจทั้งของพ่อและของตัวเองที่มีอยู่ในปัจจุบัน การเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ พรรค CPP คว้าที่นั่งในสภามาได้ 120 ที่นั่งจากทั้งหมด 125 ที่นั่ง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาประกาศตัดสิทธิ์พรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ไม่ให้ลงแข่งขัน เหลือเพียงพรรคเล็กยิบย่อย ทำให้พรรค CPP ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายและลอยลำ 

ที่ผ่านมา ฮุน เซน เคยถูกวิจารณ์อย่างมากเรื่องการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง รวมทั้งนักรณรงค์และสื่อมวลชน เขาเคยกล่าวไว้ว่า พรรค CPP ของเขาจะปกครองกัมพูชาไปอีกนับร้อยปี ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจะต้องรอถึงชาติหน้าหากต้องการจะขึ้นครองอำนาจแทน และเขาจะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศจนกว่าจะรู้สึกเองว่าควรหยุด

ตอนนี้โลกได้รับรู้แล้วว่า เวลาที่เขากล่าวว่าควรจะหยุดนั้น ได้มาถึงแล้ว พล.อ.ฮุน มาเนต คือผู้ที่เขาวางหมากเอาไว้ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ แต่การหยุดของสมเด็จฮุน เซน เอง เชื่อว่าคงเป็นเพียงการหยุดแสดงบทบาทอย่างออกหน้าเท่านั้น แต่เบื้องหลัง ถึงอย่างไรก็คงจะมีเงาของเขาคนนี้อยู่ดูแลเป็นแบ็คอัพสนับสนุนบุตรชายอยู่อีกตราบนานเท่านาน