ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-ออสเตรเลีย ทยอยคลายมาตรการคุมโควิด มุ่งกลับสู่ภาวะปกติ

25 ต.ค. 2564 | 09:11 น.

หลายประเทศทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปูทางไปสู่การใช้ชีวิตเป็นปกติ ล่าสุดญี่่ปุ่นจ่อยกเลิกข้อจำกัดควบคุมร้านอาหารหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ออสเตรเลีย-เกาหลีใต้ ตั้งเป้าคืนสู่ภาวะปกติปลายเดือนต.ค.และต้นเดือนพ.ย. ตามลำดับ

นานาประเทศทยอย ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากที่เคยอยู่ในระดับคุมเข้ม มุ่งหน้าสู่การกลับคืนสู่ การใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ แม้ว่ายังมีการแพร่ระบาดของโควิด แต่ก็อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ญี่ปุ่นยกเลิกข้อจำกัดควบคุมร้านอาหาร ขณะที่เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนได้ 70% เตรียมคืนสู่ภาวะปกติเดือนพ.ย. ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย ฉีดวัคซีนใกล้แตะ 80% สถานบันเทิงจ่อให้บริการปลายเดือนต.ค. 

  

ญี่ปุ่นยกเลิกข้อจำกัดโควิดในร้านอาหารหลายพื้นที่

รัฐบาลญี่ปุ่น ยกเลิกข้อจำกัดการควบคุมโควิด-19 ที่บังคับใช้กับร้านอาหารในกรุงโตเกียวและพื้นที่อื่น ๆ ในวันนี้ (25 ต.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่อาจปรับตัวขึ้น

 

ทั้งนี้ กรุงโตเกียว รวมถึงจังหวัดคานางาวะ ไซตามะ ชิบะ และโอซาก้า ได้ยกเลิกข้อจำกัดในการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปรับเวลาทำการของร้านอาหารเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ญี่ปุ่นยกเลิกข้อจำกัดโควิดในร้านอาหารหลายพื้นที่

สำหรับพื้นที่กรุงโตเกียวและโอซาก้า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนที่รัฐบาลยกเลิกข้อจำกัดในร้านอาหาร โดยกรุงโตเกียวมียอดผู้ติดเชื้อรายวันเพียง 19 รายเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2563 เป็นต้นมา

 

ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วประเทศญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับ 236 รายเมื่อวันอาทิตย์ (24 ต.ค.)  หลังจากที่ญี่ปุ่นเคยมียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึง 25,000 รายในช่วงกลางเดือนส.ค. ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกที่ 5

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ร้านอาหารกว่า 102,000 แห่งในกรุงโตเกียวได้รับการรับรองว่าผ่านมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่จำเป็นแล้ว และสามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เกินเวลา 20.00 น. ส่วนร้านอาหารที่ไม่ผ่านการรับรองประมาณ 18,000 แห่งจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดิม และต้องหยุดให้บริการภายในเวลา 21.00 น.

 

รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อคลายข้อจำกัดสถานบริการปลายต.ค.นี้

รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐใหญ่ของออสเตรเลีย ใกล้บรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบสองโดสก่อนกำหนดที่วางไว้เกือบ 1 สัปดาห์ โดยสถานที่ในร่มส่วนใหญ่ เช่น ร้านค้าปลีก โรงภาพยนตร์ และโรงละคร จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และประชาชนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางในระดับภูมิภาคได้ในวันที่ 29 ต.ค. นี้ตั้งแต่ 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียใกล้เข้าถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีนครบโดสให้ประชาชน 80% ของจำนวนประชากรทั้งรัฐ เพื่อที่จะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ดี นายเจเริน ไวมาร์ ประธานคณะทำงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐวิกตอเรีย ยอมรับว่า ยังมีประชาชนในรัฐที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปจำนวนมากกว่า 5 แสนรายที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโดสแรก พวกเขาจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการป้องกันหากมีการยกเลิกข้อจำกัด พร้อมให้ข้อมูลว่า 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อโควิดใหม่รายวันในสัปดาห์ที่แล้วล้วนเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย จ่อคลายข้อจำกัดสถานบริการปลายต.ค.นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (25 ต.ค.) รัฐวิกตอเรียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในท้องถิ่น 1,461 ราย และผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งลดลงอย่างมากจากจำนวนของวันอาทิตย์

 

ไวมาร์กล่าวว่า ในผู้ป่วยเหล่านี้ มีแนวโน้มต่อเนื่องที่จะเป็นผู้ที่มีอายุน้อย และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดส อย่างในพื้นที่ของรัฐท้องถิ่นบางแห่ง เช่น เมืองวินด์แฮม ทางชานเมืองตะวันตกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น พบว่าในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีนั้น 96% ล้วนเป็นผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดส

 

ขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาธ์เวลส์ที่อยู่ใกล้เคียง พบผู้ป่วยในท้องถิ่นเพิ่ม 294 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 4 รายในวันจันทร์ (25 ต.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รอบปัจจุบัน เพิ่มในระดับมากกว่า 500 ราย

 

เกาหลีใต้บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 70% ของจำนวนประชากร

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KDCA) เปิดเผยวันนี้ (25 ต.ค.) ว่า เกาหลีใต้บรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากร 70% ของประเทศแล้ว ซึ่งจะช่วยปูทางสู่การกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเดือนหน้า

 

KDCA ระบุว่า นับจนถึงเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (23 ต.ค.) เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้ว 36 ล้านราย จากประชากรทั่วประเทศราว 52 ล้านราย

 

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ เป้าหมายดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลง เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องต่อสู้กับปัญหาขาดแคลนวัคซีน และความล่าช้าในการจัดส่ง แต่ในเวลาต่อมา เกาหลีใต้ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวัคซีนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยสมัครใจค่อนข้างสูง ซึ่งแซงหน้าสหรัฐและอีกหลายประเทศ

เกาหลีใต้บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 70% ของจำนวนประชากร

นายควอน ด็อกชอล รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนกลับมาดำเนินกิจกรรมปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมในช่วงกลางเดือนพ.ย.

 

ทั้งนี้ เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากรัฐบาลเร่งดำเนินการตรวจหาเชื้อและติดตามผู้ติดเชื้ออย่างจริงจัง

 

ประธานาธิบดีมูน แจ-อิน เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จะเริ่มกลับสู่การใช้ชีวิตปกติในเดือนพ.ย.นี้ หลังอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น แต่การดำเนินแผนการดังกล่าวจะกระทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยึดจากความสามารถในการควบคุมเชื้อไวรัส และอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง

 

ทั้งนี้ ธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการสกัดโควิด-19 จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น ส่วนเด็ก ๆ จะได้กลับไปเรียนในห้องเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้จะคงมาตรการป้องกันไวรัสขั้นพื้นฐานไว้เช่นเดิม อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น

 

 ปัจจุบัน เกาหลีใต้มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสอยู่ที่ระดับ 70% ของประชากรทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลมองว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่การทยอยผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด  นอกจากนี้ รัฐบาลได้เสนองบประมาณสูงถึง 604.4 ล้านล้านวอน (5.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2565 โดยเพิ่มขึ้น 8.3% จากงบประมาณในปีนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการอัดฉีดระบบเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังต้องชะงักงันกับการแพร่ระบาดของโควิด-19