เฟดเจอโจทย์ยากในการประชุม 2-3 พ.ย. หลังตัวเลขจ้างงานคลุมเครือ

09 ต.ค. 2564 | 00:31 น.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบากในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ไร้ทิศทางในวันนี้ (9 ต.ค.)

นายคาร์ล แทนเนนบอม นักเศรษฐศาสตร์จากนอร์ทเทิร์น ทรัสต์ เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องการเห็น ตัวเลขจ้างงาน จำนวนมากเพื่อให้การตัดสินใจ ถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เป็นไปอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ คาดว่าการหารือกันในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย. จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก และตลาดจะต้องรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หลังมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานออกมา

 

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะประกาศกำหนดเวลาในการเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตาม มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย. และจะดำเนินการปรับลดจริงในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ซึ่งคาดการณ์ไทม์ไลน์ดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไป หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ ที่ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 500,000 ตำแหน่ง หลังจากแตะระดับ 366,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

เฟดเจอโจทย์ยากในการประชุม 2-3 พ.ย. หลังตัวเลขจ้างงานคลุมเครือ

อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% จากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค.

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 1,091,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 1,053,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 366,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่ง

 

ทั้งนี้ ในเดือนก.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 317,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 123,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.6% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%

เฟดเจอโจทย์ยากในการประชุม 2-3 พ.ย. หลังตัวเลขจ้างงานคลุมเครือ          

นักลงทุนมองต่างมุมเกี่ยวกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ (9 ต.ค.) โดยบางส่วนผิดหวังต่อตัวเลขดังกล่าว และมองว่าตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ และส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งมองมุมบวกว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าว จะทำให้เฟดยังไม่เร่งประกาศปรับลดวงเงิน QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ทางด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ถือเป็นโจทย์ยากของเฟดในการตัดสินใจว่าจะถอนการผ่อนคลายนโยบายการเงินตามแผนที่คาดไว้หรือไม่ เนื่องจากรายละเอียดในรายงานตัวเลขจ้างงานฉบับนี้บ่งชี้ทิศทางที่แตกต่างกัน

 

ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรโดยรวมต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์อยู่มาก แต่อัตราการว่างงานที่ดีกว่าคาด และอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ก็ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อตลาดแรงงาน

 

นอกจากนี้ การที่กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.และส.ค. ก็ได้บ่งชี้การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกัน การที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และอาจเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย