กองทุน “โซรอส” ดันบิตคอยน์พุ่งทะลุ 55,000 ดอลล์ เหนือระดับ 1,800,000 บาท

06 ต.ค. 2564 | 22:12 น.

บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 55,000 ดอลลาร์วานนี้ (6 ต.ค.) และอยู่เหนือระดับ 1,800,000 บาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. เป็นต้นมา ขานรับรายงานที่ว่า กองทุนของนายจอร์จ โซรอส เจ้าของฉายา “พ่อมดการเงิน” ได้เข้าลงทุนในบิตคอยน์

รายงานข่าวระบุว่า บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าสหรัฐไม่มีแผนจะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต

 

ขณะนี้ บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่างเฟซบุ๊ก ขณะที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในภาพรวมมีมูลค่าตลาด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับมูลค่าตลาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์.

 

ในการซื้อขายวานนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.นี้

 

บิตคอยน์เคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 64,889 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

กองทุน “โซรอส” ดันบิตคอยน์พุ่งทะลุ 55,000 ดอลล์ เหนือระดับ 1,800,000 บาท

ทั้งนี้ กระแสเงินลงทุนได้ไหลเข้าสู่สกุลเงินคริปโตและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดไม่มีความตั้งใจที่จะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินคริปโตแต่อย่างใด

         

สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลมักปรับตัวได้ดีในเดือนต.ค. โดยสามารถฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย. ซึ่งรูปแบบการปรับตัวของบิตคอยน์ในปีนี้ก็สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย.ปีนี้ ใกล้หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ หลังรัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์

 

ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน ออกแถลงการณ์ระบุว่า การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะถูกกวาดล้างอย่างหนัก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าในจีน ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน และพนักงานที่ทำงานให้แก่แพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกดำเนินการสอบสวน

 

ก่อนหน้านั้นในเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนก็เพิ่งมีคำสั่งห้ามสถาบันการเงิน รวมทั้ง Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์อย่างหนักหน่วง ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของทางการจีนนับตั้งแต่เดือนก.ค.มาจนถึงก.ย.นับเป็นข่าวร้ายที่ฉุดราคาบิตคอยน์ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้