เหลืออีกเพียงไม่กี่วันจะถึง วันเลือกตั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา 3 พ.ย. 2563 การหาเสียงทั้งของฝ่าย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ นายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต เป็นไปอย่างดุเดือดเข้มข้น ท่ามกลางความกระตือรือร้นของชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของสหรัฐเปิดเผยวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ชาวอเมริกันกว่า 70 ล้านคนได้ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีล่วงหน้าแล้วในขณะนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในปี 2559 มากกว่าครึ่งหนึ่ง ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงราว ๆ 1 สัปดาห์ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
7ข้อต้องรู้ โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสหรัฐ
“ทรัมป์ VS ไบเดน” ดีเบตรอบสุดท้าย ชี้ชะตาเลือกตั้งปธน.สหรัฐ
นักบินอวกาศสหรัฐลงคะแนนเลือกตั้งจากนอกโลก
ชาวอเมริกันจำนวนกว่า 70 ล้านคนที่ออกมาเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันจะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในรอบกว่า 100 ปี ในขณะที่ศึกการชิงตำแหน่งระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน เป็นไปอย่างดุเดือด
นอกจากนี้ การที่ชาวอเมริกันตัดสินใจแห่กันออกไปเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากการแพร่เชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว
ทางด้านรัฐนิวยอร์กเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า รัฐนิวยอร์กมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ารวม 422,166 คนในวันเสาร์ที่ 24 ต.ค. และวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 3.2% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีการลงทะเบียนจำนวนเกือบ 13 ล้านคนทั่วทั้งรัฐ
ทั้งนี้ อัตราการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันระหว่างปธน.ทรัมป์ และคู่แข่งอย่างนาย ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีนั้นเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยคาดว่าจนถึงวันสุดท้ายที่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น จะมีผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนจำนวนสูงถึง 150 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา
และในนิยามคำว่า การแข่งขันหาเสียงที่เป็นไปอย่างเข้มข้นนั้น ก็หมายรวมถึงการใช้ “วิชามาร” สกัดทางของคู่แข่งทุกวิถีทาง ซึ่งเอาเข้าจริง ๆก็ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นการลงมือของพรรคฝ่ายตรงข้าม หรือของบุคคลที่สามที่ไม่ประสงค์ดีกันแน่ เช่นกรณีของเว็บไซต์ donaldjtrump.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์หาเสียงอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดได้ถูกกลุ่มแฮกเกอร์เข้าควบคุมเพจ "About" ของเว็บดังกล่าว เป็นระยะเวลาหนึ่งเมื่อบ่ายวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (27 ต.ค.) โดยแฮกเกอร์ได้โพสต์ข้อความหลอกลวงเพื่อให้มีการจ่ายเงินเป็นคริปโตเคอเรนซี
กลุ่มแฮกเกอร์อ้างว่า สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับปธน.ทรัมป์และเครือญาติ รวมถึงข้อมูลลับเกี่ยวกับต้นตอของโรคโควิด-19 ด้วย นอกจากนี้ ยังขู่ว่าจะเปิดเผยหลักฐานเกี่ยวกับการที่ปธน.ทรัมป์มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับเงินดิจิทัลหรือไม่ก็ตาม
นายทิม เมอร์ทอช ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร ทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ออกมายืนยันว่า เว็บไซต์ donaldjtrump.com ได้ถูกแฮกเกอร์เข้าโจมตีบางส่วนจริง แต่ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริจาคหรือผู้สนับสนุนไม่ได้ถูกแฮกแต่อย่างใด และขณะนี้เว็บไซต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว และกำลังดำเนินการตรวจสอบการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าว
ข่าวระบุว่า การแฮกเว็บไซต์นี้ได้ถูกพบโดยนายเกเบรียล ลอเรนโซ เกรชเลอร์ (Gabriel Lorenzo Greschler) ซึ่งเขาได้แคปหน้าจอเพจที่ถูกแฮกไว้ได้และทวีตบอกเล่าเรื่องราวนี้ทางบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ @ggreschler โดยกลุ่มแฮกเกอร์ได้โพสต์ข้อความว่า "เว็บไซต์นี้ได้ถูกยึดแล้ว ปธน.ทรัมป์เผยแพร่ข่าวปลอมมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่โลกต้องรู้ความจริง" พร้อมทั้งระบุที่อยู่สำหรับการส่งเงินดิจิทัลเพื่อแลกกับข้อมูลลับด้วย