เจโทรเร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นธุรกิจ มั่นใจ“ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองไทย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

04 ก.ย. 2563 | 00:50 น.

เจโทรเร่งกระตุ้นกิจกรรมทางธุรกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ฟื้นยอดขายและการส่งออกหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประเดิมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและวัตถุดิบนำเข้าในกลุ่มอาหารผ่านแคมเปญ “ Let’s eat JAPAN” ประธานฯ เผยบริษัทญี่ปุ่นมั่นใจลงทุนในไทย และโดยส่วนตัวก็ไม่มีความเป็นห่วงกังวลใด ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองไทย พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจไทย-ญี่ปุ่นอีกเพียบทั้งในปีนี้และปีหน้า

 

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์สื่อในงานเปิดตัว แคมเปญ “Let’s eat JAPAN อาหารญี่ปุ่น! ยิ่งทานยิ่งสนุก! ยิ่งทานยิ่งอร่อย!” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. - 14 ธ.ค. 2563 เพื่อประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น และเผยแพร่ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่เจโทรเร่งจัดทำหลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจหลากแขนงในประเทศไทย ซึ่งรวมทั้งธุรกิจร้านอาหารที่ยอดขายตกต่ำลงอย่างมาก และมีผลทำให้การส่งออกวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยลดลงราว 4.7% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ)

“ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 เจโทรเล็งเห็นความสำคัญในการช่วยกระตุ้นธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยให้กลับมาฟื้นตัวและส่งเสริมให้อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมเพิ่มอย่างกว้างขวางมากขึ้น และมุ่งหวังให้ผู้บริโภคชาวไทยที่ยังไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ คลายความคิดถึงญี่ปุ่นผ่านทางการรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองทั้งด้านรสชาติและคุณภาพอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 500 แห่งในประเทศไทย” นายอัทสึชิ ทาเคทานิ กล่าว พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

 

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถิติการนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก ในปัจจุบัน ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนกว่า 3,600 ร้าน และยังมีร้านเปิดใหม่เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีความหลากหลายให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ ทั้งร้านที่มีรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับเหมือนกินอยู่ที่ญี่ปุ่น และร้านที่มีการปรับเปลี่ยนรสชาติให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมผสานความเป็นไทย ซึ่งถือว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก”

ทั้งนี้ ข้อมูลของเจโทรซึ่งมีการเก็บรวบรวมจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นใหม่ทุกปี ชี้ว่าในปี 2562 จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย เพิ่มขึ้นจาก 3,004 ร้านในปี 2561 เป็น 3,637 ร้าน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในเวลาเพียงปีเดียว มีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากว่า 600 ร้าน โดยสถิติในปี 2562 ยังชี้ว่า เป็นการเติบโตในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธุรกิจร้านอาหารและการค้าวัตถุดิบอาหารระหว่างไทยกับญี่ปุ่นซึ่งมีการขยายตัวตามไปด้วย  

 

จับมือ 3 พันธมิตรเปิดตัวแคมเปญเปิดตัวแคมเปญ “Let’s eat JAPAN”

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์โควิด-19 ทำให้ยอดการส่งออกวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นมาไทยในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ ลดลงราว 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดส่งออกวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นมาไทยเมื่อปี 2562 ทั้งปีอยู่ที่ 39,500 ล้านเยน จึงเป็นที่มาให้เจโทรเร่งจัดทำ แคมเปญ “Let’s eat JAPAN อาหารญี่ปุ่น! ยิ่งทานยิ่งสนุก! ยิ่งทานยิ่งอร่อย!”  โดยแคมเปญนี้ใช้งบจัดทำราว 60 ล้านเยน เป็นความร่วมมือระหว่างเจโทร กับร้านอาหารที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” ในประเทศไทยจำนวนมากกว่า 150 ร้าน และ 3 พันธมิตรหลัก ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ บริษัท Gojek และ GrabFood ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร มีรายละเอียดของแคมเปญที่ผู้บริโภคชาวไทยสามารถร่วมสนุก ดังนี้

เจโทรเร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นธุรกิจ มั่นใจ“ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองไทย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

คุ้มที่ 1 “Share 555! มอบส่วนลด 50% สำหรับเมนูที่เข้าร่วมแคมเปญให้กับลูกค้าเอไอเอส และเอไอเอส ไฟเบอร์ เมื่อรับประทานอาหารที่ 58 ร้านค้าที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 16 ก.ย. - 15 พ.ย. 2563

 

คุ้มที่ 2 “Share 555! – มอบโค้ดส่วนลดบนแอปพลิเคชันเดลิเวอรีเมื่อสั่งอาหารเดลิเวอรี ระหว่างวันที่ 16 ก.ย. - 14 ธ.ค. 2563 สำหรับแอปพลิเคชัน Gojek (จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วม 42 ร้านค้า) และวันที่ 14 ก.ย.- 12 ธ.ค. 2563 สำหรับแอปพลิเคชัน GrabFood (จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วม 59 ร้านค้า)

 

คุ้มที่ 3 Japan Diner 3000!  เป็นการประกวดภาพถ่ายอาหารลุ้นรางวัลรับประทานอาหารญี่ปุ่นมูลค่า 3,000 บาท เมื่อร่วมสนุกกับกิจกรรมประกวดภาพถ่ายอาหารสุดน่ากิน โดยโพสต์ลง Social Media ระหว่างวันที่ 5 ก.ย. - 27 พ.ย. 2563 ผู้ร่วมลุ้นรางวัลสามารถโพสต์ภาพถ่ายอาหารของร้านค้าที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” จำนวน 516 ร้านค้า และรับรางวัลสิทธิ์รับประทานอาหารญี่ปุ่นจากร้านดังจำนวน 36 ร้านค้า

 

“ตลอดทั้งแคมเปญนี้ เราตั้งใจมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้ทุกท่านมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมในราคาที่เอื้อมถึงได้ จากร้านอาหารที่บรรจงคัดสรรวัตถุดิบนำเข้าชั้นเลิศจากญี่ปุ่นจำนวนมากที่เข้าร่วมแคมเปญ  รวมมูลค่าส่วนลดในแคมเปญนี้ 5.55 ล้านบาท เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะช่วยส่งต่อรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ “555” ให้กับคนไทยได้ไม่มากก็น้อย” ประธานเจโทรกล่าว

มั่นใจประเทศไทย ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

นอกจากนี้ ยังย้ำว่าในปีนี้และปีหน้า เจโทรยังจะมีกิจกรรมส่งเสริมการค้า-การลงทุนระหว่างภาคธุรกิจของไทยและญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากการกระตุ้นกิจกรรมในส่วนของธุรกิจร้านอาหารและการค้าวัตถุดิบอาหารแล้ว ก็ยังจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ JETRO Japan Food Products Online Matching Fair 2020 เริ่มในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ส่งออกสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นกับผู้ประกอบการฝ่ายไทย ซึ่งโครงการทั้งสองน่าจะช่วยให้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย

 

ลำดับถัดจากนี้ไปจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องจักรในการผลิตอาหาร หุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอุปกรณ์และบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ เป็นต้น

 

ประธานเจโทรกล่าวว่า ไม่มีความเป็นห่วงกังวลใด ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในไทย รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยจัดทำโดยหอการค้าญี่ปุ่นระหว่างเดือนพ.ค-มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า 60% ของบริษัทญี่ปุ่นที่ตอบคำถามการสำรวจ ระบุว่าแม้มีโควิดก็จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปในประเทศไทย และเกินกว่า 70% บอกว่าจะลงทุนต่อเนื่องหรือลงทุนเพิ่มในประเทศไทย   

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จัก ‘อัทสึชิ ทาเคทานิ’ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ คนใหม่

บริษัทญี่ปุ่นพอใจไทยแก้โควิด จี้เร่งกระตุ้นศก.-หนุนลงทุนเพิ่ม

ฮึดสู้เวียดนาม ดึง1,800บริษัท BOI จัดหนักชวนลงทุนไทย

สัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นแน่นปึ้ก! ผ่านมุมมองประธานเจโทร เจแปน