ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เมื่อ ประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้นำของจีนประกาศการถือกำเนิดของจีนยุคใหม่ (Birth of New China) สภาพเศรษฐกิจของจีนนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเริ่มจากศูนย์ คือความยากจนและความว่างเปล่า แต่เวลาผ่านไป 70 ปี หรือเพียงแค่ชั่วอายุคน จีนในวันนี้ได้ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลกในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยในเวลานี้ จีนได้เริ่มเดินทางบนเส้นทางใหม่ของการพัฒนา บางคนเรียกว่าเป็น “ความฝัน” ของจีนยุคใหม่ (Chinese Dream) เป้าหมายที่มุ่งหวังไม่ใช่ตัวเลขจีดีพี 2 หลักอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต แต่เป็นคุณภาพชีวิตที่ดี ความเป็นสังคมสมัยใหม่ และความภาคภูมิใจในสถานะมหาอำนาจของจีนภายใต้อัตลักษณ์สังคมนิยมซึ่งเป็นรูปแบบพิเศษของจีนเอง
ในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นปีที่สภาประชาชนแห่งชาติของจีน ลงมติด้วยคะแนนเห็นชอบ 2,958 เสียงให้ยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีไม่เกิน 2 สมัย (หรือ 10 ปี) เปิดทางให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สามารถครองอำนาจในฐานะประมุขของประเทศไปตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะสละตำแหน่ง อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีการนำแนวคิดทางการเมืองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บรรจุลงในธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการยกฐานะให้เขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับที่เทียบเท่ากับประธานเหมา ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ครองตำแหน่งผู้นำตลอดชีพเช่นกัน สถานะทางอำนาจที่มั่นคงดังกล่าวทำให้เชื่อว่าแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีนก็จะยิ่งรุดหน้าไปได้ด้วยความแข็งแกร่ง มั่นคง และต่อเนื่องเช่นเดียวกัน (ลำดับขั้นการพัฒนาเป็นดังภาพกราฟิกประกอบ)
เป้าหมายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือการบรรลุสังคมกินดีอยู่ดีรอบด้านภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) และขยับสู่การเป็นประเทศสมัยใหม่ที่ก้าวนำในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีภายในปี 2035 (พ.ศ. 2578) จากนั้นก็ก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจแบบที่มีอัตลักษณ์ของตัวเองคือเป็นสังคมนิยมที่ทันสมัย รํ่ารวย ประชาชนเป็นใหญ่ เลิศวัฒนธรรม สมานฉันท์ และสวยงาม ที่ตีความได้ว่า ไม่เพียงมีความก้าวหน้าระดับชั้นนำของโลก แต่ต้องประคับประคองสังคมให้น่าอยู่ สิ่งแวดล้อมดี มีสุนทรียะในวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต ซึ่งไม่อาจวัดหรือตัดสินกันได้ด้วยจีดีพี เพราะที่ผ่านมา จีนเคยโตอย่างรวดเร็วในอัตราปีละมากกว่า 10% แต่ผลพวงที่ตามมาคือความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมและพิษปนเปื้อนในแหล่งนํ้าและอากาศ ฉะนั้น อุดมคติใหม่ของการพัฒนาจีนคือความก้าวหน้าในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณภาพชีวิตรวมทั้งการผลิตดีขึ้น และพึ่งพาเทคโนโลยีของตนเองให้มากขึ้นซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายอันดับต้นๆ ของจีนในยุคปัจจุบัน
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3510 ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562