ราคาหุ้นบริษัท โคคา-โคลา ผู้ผลิตน้ำอัดลมและเครื่องดื่ม รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่หุ้นละ 54.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 6% เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นอานิสงส์จากยอดขายในภาพรวมที่มีการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะจากสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสินค้าเดิมที่นำมาปรับสูตรใหม่
นายเจมส์ ควินซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคคา-โคลา เปิดเผยระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า รายได้เกือบๆ 25% ของบริษัทมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งเครื่องดื่มเดิมๆที่มีอยู่แต่นำมาปรับสูตรใหม่ ซึ่งหากจะเทียบกับสถิติเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จะพบว่าสินค้าในกลุ่มนี้ทำรายได้ให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วนเพียง 15% เท่านั้น เป็นที่คาดหมายว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าใหม่และสินค้าปรับปรุงสูตรใหม่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกเมื่อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชูกำลัง “โคคา-โคลา อิเนอร์จี” (Coca-Cola Energy) เริ่มบุกตลาดต่างประเทศ
ในช่วงไตรมาส2 ของปีนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำรายได้โดดเด่นเป็นพิเศษ ได้แก่ โคคา-โคลา ซีโร่ ชูการ์ (Coca-Cola Zero Sugar) ที่ยอดขาย(เชิงปริมาณ) มีการเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลักติดต่อกันมาเป็นไตรมาสที่ 7 แล้ว ส่วนธุรกิจกาแฟ “คอสต้า คอฟฟี่” (Costa Coffee) ก็กำลังไปได้ดี โดยล่าสุดได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นกาแฟพร้อมดื่มแช่เย็นเปิดตัวในตลาดประเทศอังกฤษ
ผู้บริหารของโคคา-โคลายอมรับว่า กลยุทธ์ของบริษัทนั้นต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือไปจากเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่พวกเขาคุ้นชิน ผู้บริโภคในยุคใหม่นี้ยังต้องการเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ มีปริมาณน้ำตาลน้อย มีรสชาติใหม่ๆมานำเสนอ และพร้อมดื่ม-พร้อมนำติดตัวไปได้ทุกที่โดยสะดวก
การปรับเปลี่ยนตอบโจทย์ที่เห็นได้ชัดและให้ผลลัพธ์ที่ดี ยังได้แก่นำเสนอผลิตภัณฑ์ในขนาดบรรจุที่เล็กลง “ขนาดบรรจุเล็กๆเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม” จอห์น บอยแลนด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท เอ็ดเวิร์ด โจนส์ ให้ความเห็นและย้ำว่า ความชัดเจนเกี่ยวกับประเภทสินค้าและนวัตกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในกรณีของโคคา-โคลานั้น ผู้บริหารเล็งเห็นถึงการนำเสนอนวัตกรรมและกลุ่มประเภทสินค้าใหม่ๆ ดังนั้นในปี 2561 โคคา-โคลาจึงได้ตัดสินใจซื้อกิจการบริษัท คอสต้า คอฟฟี่ ในประเทศอังกฤษ โดยใช้เงินลงทุนถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน คอสต้า คอฟฟี่ กำลังรุกหนักตลาดเครื่องดื่มกาแฟด้วยการนำเสนอนวัตกรรมกาแฟ การติดตั้งตู้เวนดิ้งแมชชีน (ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ) การพัฒนาเมล็ดพันธุ์กาแฟ และอุปกรณ์สำหรับให้บริการลูกค้าภายในร้าน ล่าสุด บริษัทยังได้ออกกาแฟพร้อมดื่ม 3 รสชาติ และ “โค้ก คอฟฟี่” (Coke coffee) เครื่องดื่มใหม่ที่ผสานน้ำอัดลมกับกาแฟไว้ด้วยกัน วางตลาดในหลายประเทศ
ทั้งนี้ โคคา-โคลา คาดหมายว่า รายได้โดยรวมจะมีการขยายตัว 5% ในปี 2562 นี้ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการณ์เดิมที่คาดไว้ว่าจะโต 4% ส่วนไตรมาส2 ยอดขายเครื่องดื่มโคคา-โคลาแบบดั้งเดิมและแบบไม่มีน้ำตาล มีการเติบโตในอัตรา 4% ทำให้รายได้สุทธิมีการขยายตัวถึง 6.1% สู่ระดับ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเหนือกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์