UNHCR ระบุตัวเลขผู้ลี้ภัยทั่วโลกพุ่งเกิน70ล้านคน

20 มิ.ย. 2562 | 03:32 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2562 | 10:38 น.

ตัวเลขผู้พลัดถิ่นท่ัวโลกสูงเกิน 70 ล้านคน ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เร่งผลักดันความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันในการแก้ปัญหา 

ในปี 2561 จำนวนผู้ลี้ภัยจากสงคราม การประหัตประหารและความขัดแย้ง ได้เพิ่มสูงขนึ้เกิน 70 ล้านคนซึ่งเป็นสถิติที่สงูที่สุดเท่าที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผ้ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เคยประสบมาในระยะเวลาการทำงานกว่า 70 ปี 

รายงานประจำปีของ UNHCR หรือ Global Trends ฉบับล่าสุด เปิดเผยข้อมูลว่า มีจำนวนผู้ถูกบังคั ให้พลัดถิ่นทั่วโลกสูงถึง 70.8 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 2.3 ล้านคน ภายในระยะเวลาหนึ่งปี และเทียบได้กับขนาดประชากรของประเทศไทยและประเทศตรุกี 

ทั้งนี้ิ 70.8 ล้านคน คือ สถิติขั้นต่ำที่ยังไม่รวมจำนวนผู้พลัดถิ่นทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากวิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ในประเทศ เวเนซุเอล่าสถิติรวมจากรัฐบาลต่างๆ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวเวเนซุเอล่า ระบุว่า ในขณะนี้มีประชากรจำนวนมากกว่า 4 ล้านคน ที่เดินทางออกจากประเทศ ส่งผลให้วิกฤติการณ์ครั้งนี้ เป็นกการผลัดถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกครั้ง ล่าสุด และแม้ว่า ผู้พลัดถิ่นส่วนใหญ่ต้องการความค้มุครองจากนานาชาติ แต่จนถึงทุกวันนี้ มีจำนวนผู้พลัดถิ่นเพียงครึ่งล้านเท่านั้นที่ขอลี้ภัยอย่างเป็นทางการ 

“สิ่งที่เราเห็นจากสถิติเหล่านี้เป็นข้อยืนยันถึงแนวโน้มว่า จะมีผู้คนที่ต้องหลบหนีจากสงคราม ความขัดแย้ง และการประหัตประหาร เพื่อหาความปลอดภัยัเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาว ขณะที่การพูดถึงเรื่องผู้ลี้ภัยและผู้อพยพจะสร้างความแตกแยก แต่เราก็ได้เห็นน้ำใจและความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันที่หลั่งไหลให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในชุมชนที่มอบที่พักพิงให้แก่ผู้ลี้ภัยจำนวนมาก นอกจากนี้ เรายังได้เห็นความร่วมมือที่คาดไม่ถึงจากภาคส่วนใหม่ๆ เช่น กพัฒนา ชุมชน ภาคธุรกิจและเอกชน รวมถึงบุคคลทั่วไป ที่สะท้อนถึงและดำเนินงานตามเจตนารมณ์ข้อตกลงระหว่างประเทศว่า ด้วยเรื่องผู้ลี้ภัย (GlobalCompactonRefugees)” ฟิลลิป โปกรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าว “เราต้องถือปฏิบัติจากสิ่งดีๆ เหล่านี้ และสร้างความเป็นน้ำ หนึ่งใจเดียวกันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคณู เพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธ์ิหลายพันคนที่ถูกบังคับให้จากบ้านมาในแต่ละวัน” 

ในจำนวนผู้พลัดถิ่น 70.8 ล้านคน ตามรายงานประจำปีนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยกลุ่มแรก คือ ผู้ลี้ภัย หมายถึง บุคคลที่จำเป็นต้องทิ้ง ประเทศบ้านเกิดของตนเองเนื่องจากความหวาดกลัวความขัดแย้ง สงคราม และ การถูกประหัตประหาร หรือได้รับการคุกคามต่อชีวิต จากปี 2560 มีจำนวนผู้ลี้ภัยทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่า 5 แสนคน ภายในระยะเวลาหนึ่งปี ส่งผลให้จำนวนผู้ลี้ภัยสูงถึง 25.9 ล้านคนในปี 2561 ในจำนวนนี้ 5.5ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ที่อยู่ในความคุ้มครองของสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสาหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ ในตะวันออกใกล้ หรือ UNRWA 

กลุ่มที่สอง คือ ผู้ขอลี้ภัย หมายถึง ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่ยังไม่ได้รับการรับรอง แต่รอสถานะผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการ ในปี 2561 มีผ้ขูอลี้ภัยทั่วโลกเป็นจำนวน 3.5 ล้านคน 

และกลุ่มสุดท้ายที่เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด คือ ผู้พลัดถิ่นที่ยังอยู่ภายในประเทศของตน ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 41.3 ล้านคน โดยกล่มุคนเหล่านี้เ้รียกว่าผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (InternallyDisplacedPeople หรือ IDPs) 

ด้วยจำนวนผู้พลัดถิ่นที่เพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้การดำเนินการหาทางออกเป็นเรื่องยาก แม้ทางออกที่ดีที่สุด สำหรับผู้ลี้ภัยคือ การเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ปลอดภยั และสมศักดิ์ศรี รวมถึง การผสมกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่ง ของชุมชน หรือการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 มีผู้ลี้ภัยเพียง 92,400 คน ที่ได้รับโอกาสในการตั้งถิ่นฐานใหม่ ซึ่งน้อยกว่า 7% ของจำนวนคนที่ยังคงรอการตั้งถิ่นฐานใหม่ และมีผู้ลี้ภัยเพียง 593,800 คน ที่เดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ในขณะที่ 62,600 คน ได้รับสิทธิพลเมืองในประเทศที่ให้ลี้ภัย 

“ในทุกวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย ไม่ว่าจะเกิดในประเทศใดยาวนานแค่ไหน มีความจำเป็นที่จะต้องเน้นย้ำถึงการมอบทางออกที่ถาวร และลดอุปสรรคในการกลับ ประเทศของตนอย่างสมัครใจ” กรันดี กล่าว “การแก้ปัญหาวิกฤติโลกในครั้งนี้ เป็นเรื่องซับศ้อนที่ UNHCR ยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และต้องการความร่วมมือจากทุกประเทศ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข วิกฤตินี้ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” 

**** 8 สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย จากรายงานประจำปีของ UNHCR หรือ GlobalTrends 2018 

  •  เด็ก : ในปี 2561 มีผู้ลี้ภัยเด็กเพิ่มขึ้นทุกๆ วินาที และเป็นจำนวนมากถึง 111,000 คน ที่เป็นเด็กกำพร้า และอยู่อย่างไร้ครอบครัว 
  • เด็กเล็ก : ประเทศยูกันดา รายงานว่า มีเด็กผู้ลี้ภัยอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 2,800 คน ต้องอย่ลำพังหรืออยู่แยกกับครอบครัว 
  • ผู้ขอลี้ภัยในเขตเมือง : 61% ของผู้ขอลี้ภัยในเขตเมืองจะอาศัยอยู่ในใจกลางเมือง มากกว่าที่จะอยู่ในชนบท หรือในค่ายผู้ลี้ภัย
  • ประเทศรายได้สูง – ต่ำ : ประเทศที่มีรายได้สูง รองรับผู้ลี้ภัยโดยเฉลี่ย 2.7 คน ต่อประชากรในประเทศ 1,000 คน ประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ รองรับผู้ลี้ภัย โดยเฉลี่ย 5.8 และในประเทศที่ยากจน รองรับผู้ลี้ภัยหนึ่งส่วนสามของจำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดทั่วโลก
  • ถิ่นท่ีอยู่ : 80% ของจำนวนผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีอาณาเขตติดกับประเทศภูมิลำเนาของตัวเอง
  • ระยะเวลา : สัดส่วนผู้ลี้ภัย  4 ใน 5 คน ต้องพลัดถิ่นเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี โดยที่หนงึ่ในห้านั้น ต้องพลัดถิ่นเป็น เวลานานถึง 20 ปี หรือ มากกว่านั้น 
  • ผู้ขอลี้ภัยใหม่ : ในปี 2561 ผู้ขอลี้ภัยกลุ่มใหม่ที่มีจำนวนมากที่สุดมาจากประเทศเวเนซุเอล่า (341,800 คน)
  • แนวโน้ม : ในปัจจุบันอัตราส่วนของประชากรผู้ลี้ภัย หรือผู้พลัดถิ่น ภายในประเทศต่อเพื่อนมนษุย์ทั่วโลก คือ 1ใน 108 (เทียบกับ 1 ใน 160 เมื่อสิบปีที่แล้ว)

    UNHCR ระบุตัวเลขผู้ลี้ภัยทั่วโลกพุ่งเกิน70ล้านคน