ท่ามกลางมรสุมลุมกระหน่ำภายหลังจากหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้ประกาศเพิ่มหัวเว่ยเข้าไปในรายชื่อEntity List. ทำให้พันธมิตรที่เป็นซัพพลายเออร์หลายรายหยุดการทำธุรกิจร่วม
มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของหัวเว่ยได้ให้สัมภาษณ์ถึงวิสัยทัศน์มุมมองความคิดที่น่าสนใจว่าทำไมบริษัทหัวเว่ยเติบโตและพัฒนาได้รวดเร็วทุกวันนี้
1. ผมกังวลเรื่องการศึกษาไม่ใช่ของหัวเว่ยแต่เป็นเรื่องการศึกษาของประเทศเราหากเราไม่ให้คุณค่ากับการศึกษาเราก็จะกลับไปสู่ความยากจน
2. ถึงวันหนึ่งทั้งสองฝ่ายจะปีนไปถึงจุดสูงสุดเมื่อพวกเขาไม่สู้กันพวกเขาก็จะกลายเป็นเพื่อนกัน
3. เราไม่อยากทำร้ายเพื่อนของเราเราต้องช่วยให้เขามีรายได้ที่ดีเรายังหวังว่าบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันจะยังร่วมงานกับเราได้เพื่อให้บริการแก่ผู้คนทั่วโลก
4. บริษัทอเมริกันคือครูของเราและก็เป็นเรื่องปกติที่นักเรียนอาจเก่งกว่าครูและเข้าใจได้ว่าครูคงไม่ชอบใจนักอาจถึงขั้น“ตี” นักเรียนบ้าง
5. เราพร้อมที่จะสู้กับสงครามที่ยืดเยื้อและเราจะแกร่งขึ้นในช่วงของการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์
6. หากครูไม่มีเงินเดือนและสวัสดิการที่ดีคนเก่งๆก็ไม่อยากจะมาเป็นครูช่องว่างทางสังคมก็จะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ
7. ปัญหาพื้นฐานของการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯอยู่ที่ระดับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเทศจีนต้องเปิดกว้างเพื่ออนาคตแต่การเปิดกว้างก็ต้องมีความเหมาะสมและจำเป็นจะต้องรักษารากเหง้าทางวัฒนธรรมเอาไว้
8. ผมไม่ใช่ฮีโร่และไม่เคยอยากจะเป็นฮีโร่