แนวพระราชดำริการพัฒนาของ “พ่อหลวง” ในต่างประเทศ ... บทความ โดย โต๊ะข่าวต่างประเทศฐานเศรษฐกิจ | พระปรีชาสามารถในการวางแผนการพัฒนาและพระเมตตาของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้หลุดพ้นความทุกข์ยากและมีความอยู่ดีกินดี สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ส่งผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทย แต่ยังแผ่ไปอย่างกว้างไพศาลในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก เปรียบประดุจสายฝนที่นำความชุ่มชื่นฉ่ำเย็นไปยังพื้นที่แห้งแล้งกันดาร แนวคิดการพัฒนาที่ผนวกการให้ความรู้ควบคู่คุณธรรมและการรู้ประมาณ กำลังหยั่งรากในต่างประเทศ และพร้อมจะผลิดอกผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่ประชากรโลกด้วยเช่นกัน
[caption id="attachment_222929" align="aligncenter" width="503"]
จอร์แดน ได้ขอพระบรมราชานุญาตนำเทคนิคการทำฝนหลวงไปใช้ตั้งแต่ปี 2552[/caption]
... ฉ่ำ “ฝนหลวง” ชโลมแดนไกล ...
“โครงการฝนเทียม” เกิดจากพระราชดำริส่วนพระองค์ของ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ที่เสด็จเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ทำให้ได้ทรงรับทราบถึงความเดือดร้อนของราษฎรและเกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ต้องการบรรเทาความทุกข์ร้อนของพสกนิกร จึงได้พระราชทาน “โครงการพระราชดำริฝนหลวง” ให้กับ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ไปดำเนินการ เกิดเป็นโครงการค้นคว้า-ทดลองปฏิบัติการฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี ๒๕๑๒ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา
โครงการฝนหลวงได้บรรเทาปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ช่วยให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
[caption id="attachment_222931" align="aligncenter" width="503"]
การทำการเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ภูฏาน[/caption]
ความสำเร็จของโครงการ ทำให้หลายประเทศแสดงความสนใจที่จะขอพระราชทานเทคนิคฝนหลวงไปบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศของตนเองเช่นเดียวกัน เช่น
จอร์แดน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ได้ขอพระราชทานอนุญาตนำเทคนิคการสร้างฝนเทียมของ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ไปใช้ตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ ต่อมาในปี ๒๕๕๘ ยังได้ส่งนักวิชาการ ๘ คน มารับการฝึกอบรมทำฝนหลวงและฝึกปฏิบัติการฝนหลวงในประเทศไทย เพื่อนำเทคนิคนี้ไปใช้ที่จอร์แดน อีกทั้งยังมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อปีที่ผ่านมา (๒๕๕๙) เพื่อความร่วมมือด้านวิชาการภายใต้โครงการดัดแปรสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง ตลอดจนความร่วมมือด้านการเกษตร
นอกจากจอร์แดนแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ยังทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้สิทธิบัตรฝนหลวงถ่ายทอดวิทยาการทำฝนเทียมให้กับอีก ๓ ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แทนซาเนีย และโอมาน
… “พอเพียง” เพื่อชาวโลก ...
องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ดิน และน้ำ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตามแนวพระราชดำริ ซึ่งมี “โครงการดอยตุง” เป็นต้นแบบนั้น ถูกน้อมนำไปปรับใช้ในหลายประเทศ เช่น
ที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีการน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิต ไปใช้ในเมืองอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย และเมืองบัลคห์ ในอัฟกานิสถาน เป็นต้น
[caption id="attachment_222926" align="aligncenter" width="503"]
ศูนย์การศึกษาและการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ราชอาณาจักรตองกา ซึ่ง ได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากรัฐบาลไทย (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)[/caption]
ในประเทศตองกา หรือ ราชอาณาจักรตองกา ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้
มี “ศูนย์การศึกษาและการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังของกษัตริย์ทูโพที่ ๖ ของตองกา ตามแบบอย่างโครงการเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ศูนย์การศึกษาแห่งนี้ได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากรัฐบาลไทย และได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา เกษตรกร และหน่วยงานภาครัฐเดินทางไปเยี่ยมชม ศึกษาดูงาน และค้นคว้าข้อมูลความรู้เกี่ยวกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เสมอ
ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของไทยไปให้ความรู้-คำแนะ เพื่อเพิ่มพูนและรักษาสัดส่วนของปริมาณสารอาหารให้ครบถ้วน สอดคล้องกับอุปสงค์ของการบริโภคในครัวเรือน
นอกจากนี้
ที่ประเทศภูฏาน ยังมีโครงการศูนย์เรียนรู้ต้นแบบด้านการเกษตร ในพระราชดำริของพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์นัมเกล วังชุก ที่เมืองพูนาคา
ซึ่งได้มีการน้อมนำหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ไปปรับใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ภาคเกษตรกรรมของภูฏาน และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ของไทย ผู้ทรงเป็นต้นกำเนิดแนวคิดปรัชญาดังกล่าว และทรงทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า เศรษฐกิจพอเพียงนั้นให้ผลจริง ช่วยให้ชาวไทยและชาวโลกยกระดับคุณภาพชีวิตและมีความสุขอย่างพอเพียงได้อย่างแท้จริง
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๓,๓๐๘ วันที่ ๒๖-๒๘ ต.ค. ๒๕๖๐