"ก้าวไกล"เปิดโรดแมป ลุยสู้ 2 สมรภูมิ ดันตั้งรัฐบาลของประชาชน

16 ก.ค. 2566 | 00:49 น.

พรรคก้าวไกล เปิดโรดแมป 15-19 ก.ค ขับเคลื่อนใน 2 สมรภูมิ ย้ำจะพยายามอย่างถึงที่สุด แต่หากพ่ายแพ้พร้อมเปิดทางให้ 'เพื่อไทย' เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

หลังจากการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนน 324 เสียงจากสมาชิกรัฐสภา ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลตามความคาดหวังของประชาชน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 15 ก.ค.2566 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเปิดโรดแมป 15-19 ก.ค.66 ให้ผู้สนับสนุนช่วยกันเร่งรณรงค์ผลักดันใน 2 สมรภูมิ คือ 1.การโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค.66 และ 2.การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 ตัดอำนาจในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
          
โดยสมรภูมิแรกจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติมจาก 8 พรรคเดิม ไม่น้อยกว่า 65 เสียง ส่วนสมรภูมิที่ 2 ต้องการเสียง ส.ว.จำนวน 84 เสียง

 

\"ก้าวไกล\"เปิดโรดแมป ลุยสู้ 2 สมรภูมิ ดันตั้งรัฐบาลของประชาชน

 

แม้ทั้งสองหนทางจะเป็นไปได้ยาก แต่เราเชื่อว่าหากประชาชนทุกคนร่วมกันปฏิบัติภารกิจ “ชวน ส.ว. ยืนข้างประชาชน” การเปลี่ยนใจ ส.ว. ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

"การต่อสู้ในทั้ง 2 สมรภูมินี้ เราต้องการความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องประชาชนทุกคน แม้ว่าท่านจะเคยโหวตให้เราหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อให้พิธาเป็นนายกฯ หรือให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล แต่คือการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องมีความหมาย เสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศ" พรรคก้าวไกล ระบุ

แม้ทั้งสองหนทางจะเป็นไปได้ยาก แต่เชื่อว่าหากประชาชนทุกคนร่วมกันปฏิบัติภารกิจ "ชวน ส.ว. ยืนข้างประชาชน" ด้วยการชวนให้ ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร รักษาหลักการประชาธิปไตย ที่ต้องรับฟังเสียงที่ประชาชนแสดงออกผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 19 ก.ค.66 แม้จะมี ส.ว.จำนวนมากไม่สบายใจที่จะโหวตให้ ก.ก.เพราะฉะนั้นมีอีกทางเลือกที่ยังรักษาหลักการที่ว่า ส.ว.ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง ไม่ควรมีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี คือ การเชิญชวนให้ ส.ว.โหวตยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ตัวเองในการใช้อำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างถาวร ภายในสิ้นเดือน ก.ค.66 หากโหวตผ่านจะนำไปสู่การโหวตเลือกนายกฯ รอบ 3 ภายในเดือน ก.ย.66 แต่หากการโหวตนายกฯ รอบ 2 และโหวตยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไม่ผ่านก็จะเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาล

"หากเราพ่ายแพ้ในทั้งสองสมรภูมินี้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พรรคก้าวไกลยินดีเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับสอง ได้แก่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรค โดยผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยภายใต้เงื่อนไขตามเอ็มโอยูเดิม" พรรคก้าวไกล ระบุ

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ก็มี ส.ว.จำนวนไม่น้อย เช่น นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ระบุเหตุผลที่งดออกเสียง เพราะต้องการยึดหลักการ ส.ว.ไม่มีสิทธิ์โหวตนายกฯ และก่อนหน้านี้ก็มี ส.ว.ที่เคยโหวตเห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 มากถึง 63 คน

"แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ" พรรคก้าวไกล ระบุ