สัปดาห์หน้า กกต.เริ่มพิจารณารับรอง ส.ส. ประเดิมกลุ่มไม่มีร้องเรียนก่อน

09 มิ.ย. 2566 | 09:05 น.

“แสวง"เผยสัปดาห์หน้ากกต.เริ่มพิจารณารับรองส.ส.เริ่มกลุ่มไม่มีร้องเรียน เปรียบ 25 ปีกกต.เหมือนวัยรุ่นเต็มไปด้วยพลัง โตไปไม่หยุดยั้ง ชี้ตัดคำว่า"โปร่งใส"ออกจากสโลแกนไม่สำคัญเท่าผลงานที่ประจักษ์

วันนี้ (9 มิ.ย.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีมีนับคะแนนเลือกตั้งส.ส.ใหม่ ซึ่งจะทำให้การประกาศผลล่าช้าว่า ยืนยันการสั่งนับคะแนนใหม่ไม่กระทบต่อแผนการประกาศรับรองผล เพราะสำนักงาน กกต. พยายามเร่งรัดอยู่แล้ว 

สัปดาห์หน้าสำนักงาน กกต. จะเสนอให้กกต.ทยอยพิจารณา ซึ่งน่าจะเป็นการเสนอให้พิจารณาในกลุ่มที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนก่อน แต่ไม่ใช่การทยอยประกาศผล เพราะกฎหมายระบุว่าจะต้องประกาศไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือ 380 คน 

โดยขณะนี้ได้ให้จังหวัดรายงานกลับมาว่า ในแต่ละจังหวัดมีเรื่องร้องเรียน และแต่ละเรื่องมีความหนักเบาแค่ไหน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาประกาศผล และเรามีข้อมูลจำแนกเป็นกลุ่มของผู้ได้รับเลือกตั้งที่มีเรื่องร้องเรียน กับไม่มีเรื่องร้องเรียนอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

นายแสวงยังแถลงผลงานในโอกาสสำนักงานกกต.ครบรอบ 25 ปี ว่า ถึงปัจจุบัน  ถ้าเทียบกับอายุของคน 25 ปี ก็เทียบเท่าอยู่ในช่วงอายุของวัยรุ่น ที่เต็มไปด้วยพลัง และจะเติบโตไปอย่างไม่หยุดยั้ง เปรียบเสมือนสำนักงานกกต.ในปัจจุบัน ที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ในกระบวนการเลือกตั้งอย่างมืออาชีพ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยความมุ่งมั่น ทำให้ทุกการเลือกตั้ง 

ไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ  มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นมาก เป็นประวัติการณ์ เช่น การเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 60 การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 76 แห่ง มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 62 การเลือกตั้งเทศบาล จำนวน 2,472 แห่ง มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 66 การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 5,300 แห่ง มีผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 74 

รวมถึงการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป  เมื่อวันที่14พฤษภาคม ที่ผ่านมา  มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิมากถึง ร้อยละ 75.71 จำนวน บัตรเสียลดลง รวมถึงจำนวนเรื่องร้องคัดค้าน มีเพียง 280 เรื่องซึ่งน้อยที่สุดเท่าที่จัดการเลือกตั้งมา

เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักงานกกต. มีการเปลี่ยนสโลแกน จาก “สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม” เป็น “สุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย” โดยตัดคำว่า “โปร่งใส” ออกไป นายแสวง กล่าวว่า “สุจริต” และ “เที่ยงธรรม” สองคำนี้ก็รวมคำว่า “โปร่งใส” ไว้อยู่แล้ว และไม่ได้แตกต่างอะไรกับตัวตนขององค์กร ไม่ว่าจะเขียนอย่างไร 

แต่สิ่งที่เราได้แสดงออกไปนั้น สมควร หรือมีเกียรติในตำแหน่งที่เราทำ ขอขยายความในเรื่องความโปร่งใส เนื่องจากสามารถดูได้ 2 อย่าง ส่วนแรก คือ เห็นได้ด้วยตา โดยประชาชนสามารถไปร่วมสังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้ง และบันทึกภาพได้ตลอดเวลา 

ส่วนที่สอง คือ เรามีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ ว่ากระบวนการที่เราทำนั้น เมื่อประชาชนมีข้อสงสัย ก็สามารถตรวจสอบได้ หรือหากมีข้อสงสัยอื่นใด ก็ขอให้ทางสำนักงานตรวจสอบได้เช่นกัน ซึ่งหากเราเดินหน้าแบบนี้ จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม