กกต.จะรับรอง"พิธา"เป็นส.ส.ก่อน ฟันปมถือหุ้นสื่อภายหลัง

09 มิ.ย. 2566 | 08:18 น.

"เลขาฯ กกต."แจงต้องรับรอง "พิธา" เป็นส.ส.ไปก่อน ฟันปมหุ้นสื่อภายหลัง เหตุไร้ช่องดำเนินการ ทำได้แต่คดีอาญา ม.151 รู้ว่าสมัครไม่ได้ยังฝ่าฝืน

วันนี้ (9 มิ.ย.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องกรณีการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า เรื่องนี้มีปัญหาทางเทคนิคอยู่ คือ ผู้ร้องมาร้องก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน ซึ่งกรณีมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติต้องร้องภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง 

สำนักงาน กกต. ก็ต้องพิจารณาว่า สิ่งที่ร้องมีเหตุ มีมูลที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ และเสนอให้กกต.พิจารณา ซึ่งทางกกต.มีความเห็นว่า ให้ทำให้รอบคอบ และเสนอขึ้นไปใหม่ ส่วน กกต.จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ เป็นอีกประเด็น และถ้ารับแล้วจะผิด หรือ ถูก ก็เป็นอีกประเด็น ดังนั้น เรื่องนี้จึงยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงาน

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการดำเนินการข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. แต่ยังคงลงสมัคร นายแสวง กล่าวว่า เรื่องการมีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัคร หากเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ต้องส่งศาลฎีกาวินิจฉัย แต่หลังเลือกตั้งก่อนการประกาศผล ยังเป็นช่องโหว่อยู่ ซึ่งสำนักงาน กกต. ก็คิดว่าหากมีการยื่นจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งสามารถทำคดีอาญา ตามมาตรา 151 ได้ 

ส่วนเมื่อประกาศรับรองผลไปแล้ว การให้พ้นจาก ส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 คือ สมาชิกรัฐสภาหนึ่งใน 10 เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกกต.ก็สามารถยื่นได้ แต่เราต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้กกต.กำลังพิจารณาควบคู่ระหว่างคดีอาญา ตามมาตรา 151 และคดีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า คดีคุณสมบัติยังพิจารณาไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เป็น ส.ส. ตอนนี้พิจารณาได้ เฉพาะคดีอาญา ตามมาตรา151 

"ตามคำร้องร้องว่า คุณไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส. เพราะคุณมีลักษณะต้องห้ามที่กฎหมายกำหนด เมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติก็จะไปสู่ข้อหารู้อยู่แล้วว่า ไม่มีคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตาม มาตรา 151 แต่เรื่องของการพ้นจาก ส.ส. เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ซึ่งตอนนี้ยังเป็นอนาคตที่มาไม่ถึง ยังไงก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน เพราะพ้นระยะเวลาช่วงการยื่นของศาลฎีกามาแล้ว กกต.ไม่มีอำนาจไม่ประกาศ แต่สามารถพิจารณาคดีอาญาได้"