“เพื่อไทย"อ้อมแอ้มหาก 20 ว่าที่ ส.ส.ถูก กกต.สอย ไม่กระทบตั้งรัฐบาลก้าวไกล

04 มิ.ย. 2566 | 07:56 น.

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง”เลขาฯ เพื่อไทย ชี้หาก 20 ว่าที่ ส.ส. ที่ถูกร้องเรียนเรื่องเลือกตั้ง และถูก กกต.สอย ของพรรคเพื่อไทย และ ก้าวไกล ไม่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล แต่อาจทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย

วันนี้(4 มิ.ย. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว มี 20 ว่าที่ ส.ส. ถูกร้องเรียนเรื่องเลือกตั้ง หาก เป็นของพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่า ยังไม่อยากคิดไปถึงขั้นนั้น 

“แต่ถามว่ากระทบหรือไม่ จริงๆ ก็ไม่กระทบ และไม่เป็นอุปสรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล  แต่อย่างน้อย กกต. ต้องรับรองให้ได้ 95% ก่อน เท่ากับ 475 คน หากขาดไป 20 ก็อาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย”

นายประเสริฐ กล่าวว่า หากจะมีการเลือกตั้งใหม่ กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็ว และมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกฝั่งเราอยู่

ก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ตัวเลขคำร้องมีกว่า 280 เรื่อง ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะถ้าจำไม่ผิด มีประมาณกว่า 20 คน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ โดยจะต้องมีการสั่ง 3 อย่างคือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่ 

เมื่อถามว่าตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้นจะมีการรับรอง 475 คนใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น แต่ว่าคิดว่าถ้าเผื่อประกาศได้ 100% ได้ เราก็ประกาศ เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ 

เมื่อถามว่า กรณีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอนนี้คำร้องอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจาก กกต. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ในไม่ช้านี้ เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะเรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้ 

เมื่อถามว่า คดีของนายพิธา ต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของคนอื่นหรือไม่อย่างเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า  นายอิทธิพร กล่าวว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อเรา เราจะพิจารณาตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอก็ขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ ตอนนี้เรายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่เป็นทางการที่เป็นการทำงานของกกต. ฉะนั้นตนจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ 

เมื่อถามว่าพยานหลักฐานตอนนี้มีเพียงพอ ยังต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะสำนักงาน กกต. ยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมา อยู่ในระหว่างการดำเนินการของสำนักงานฯ เมื่อถามว่า อย่างกรณีผู้ที่ถูกร้องคือนายพิธาจะต้องมีการเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่กกต.เรียก จะต้องเป็นสำนักงานฯเรียก 

เมื่อถามว่ามีคนมองว่ากรณีคำร้องของ นายพิธาเหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล กล่าวว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.เป็นหลักในการพิจารณาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก เมื่อถามโซเชียลมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธา นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มี กกต.และสำนักงานฯปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด