รู้จัก "ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ" หัวหน้า "พรรคเป็นธรรม"

"พรรคเป็นธรรม" กลายเป็นที่สนใจ หลังจากเป็น 1 ใน 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล ที่แม้จะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพียง 1ที่นั่ง แต่ด้วยแนวนโยบายของพรรค และดีกรีของหัวหน้าพรรคที่นับว่าไม่ธรรมดา แม้กระทั่งว่าที่ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หนึ่งเดียว นายกัณวีร์ สืบแสง ที่เคยนั่งเก้าอี้หัวหน้าสำนักงานภาคสนาม UNHCR

"ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ" เป็นใคร

ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้า"พรรคเป็นธรรม" เป็นผู้ก่อตั้งพรรคเป็นธรรม โดยก่อนหน้าเคยดำรงตำแหน่งโฆษกพรรคเสรีรวมไทย และได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ตามหนังสือลาออก ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2563 

ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เจ้าของฉายา "ทายาทเจ้าพ่อรถทัวร์สายใต้" โดยตระกูลเต็มเจริญ เป็นเจ้าของกิจการรถร่วม บขส. ในนามกลุ่มไทยเดินรถ เจ้าพ่อรถร่วม 14 จังหวัดภาคใต้ โลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมืองมาโดยตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2538 ดร.ปิติพงศ์ เปิดตัวลงสมัคร ส.ส.สมัยแรก ในนามพรรคประชากรไทย

ดร.ปิติพงศ์ ได้เป็นส.ส.สมัยแรก ตอนอายุ 26 ปี โดยได้เป็น ส.ส.กทม. เขต 10 (บางกอกน้อย,ตลิ่งชัน และบางพลัด) และในการเลือกตั้งปี 2544 และ 2548 ดร.ปิติพงศ์ ได้เป็นส.ส.กทม.ต่อเนื่องกัน 2 สมัย ในสังกัดพรรคไทยรักไทย

หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค ดร.ปิติพงศ์ ยังคงลงสนามเลือกตั้งใต้สังกัดพลังประชาชน ในปี 2550 และใต้พรรคเพื่อไทย ในปี 2554 โดยลงสมัครในเขตเดิม แต่ไม่สามารถเอาชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ นายชนินทร์ รุ่งแสง ทั้ง2ครั้ง

เลือกตั้ง 2562 ดร.ปิติพงศ์ ได้สวมเสื้อพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 15 แต่ผลคะแนนเลือกตั้ง พรรคเสรีรวมไทยได้รับส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงแค่ 10 คนแรก ดร.ปิติพงศ์ จึงไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา

เริ่มก่อตั้ง "พรรคเป็นธรรม"

สัญญานการตั้งพรรคใหม่เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ดร.ปิติพงศ์ ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคเสรีรวมไทย โดยขณะนั้น ปรากฏข่าวว่า ดร.ปิติพงศ์ ได้ปรึกษาหารือกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ตามแนวทางของตนเอง

พฤษภาคม 2563 พล.ท.ภราดร ได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า ตนเองได้พูดคุยกับดร.ปิติพงศ์ รับทราบว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่ประสงค์จะเข้าร่วมงานการเมืองกับคนรุ่นใหม่ ระหว่างนี้กำลังดำเนินกรรมวิธีเพื่อเข้าร่วมกับ”พรรคกลาง”หรือ Moderate Party ซึ่งมีดร.ชุมพล ครุฑแก้ว เป็นหัวหน้าพรรค 

พร้อมระบุว่า ทั้งดร.ชุมพลและดร.ปิติพงศ์ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ ทันสมัย คิดใหม่ ทำเป็น อีกไม่นานจะได้เห็นภาพของบรรดาพรรคการเมือง และบุคลากรทางการเมืองใหม่ๆปีกประชาธิปไตย เปิดตัวอาสามาเป็นทางเลือกให้แก่พี่น้องประชาชนกันอีกมากมาย

โดยหลังจากนั้น 23 มิถุนายน 2563 ดร.ปิติพงศ์ ได้ลาออกจากพรรคเสรีรวมไทย และได้ก่อตั้งพรรคเป็นธรรม โดยเปลี่ยนชื่อจาก"พรรคกลาง" ซึ่งจดทะเบียนก่อตั้งพรรคเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 มาเป็น"พรรคเป็นธรรม" ในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 และดร.ชุมพล หัวหน้าพรรคกลาง เปลี่ยนมานั่งตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคเป็นธรรม

ประวัติการศึกษา "ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ"

• รัฐประศาสนศาสตร์ ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัย กรุงเทพธนบุรี
• วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยี่แห่งเอเชีย (AIT)
• รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขากฏหมายธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอเมริกัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
• นิติศาสตร์บัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หลักสูตรระยะสั้น-ประกาศนียบัตร

• หลักสูตรนานาชาติ สาขาผู้นำทางยุทธศาสตร์และข่าวกรองวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
• หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย (ปปร) สถาบันพระปกเกล้า
• ประกาศนียบัตรวิชาชีพกฏหมาย มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
• ประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้นำ (Leadership Program) มหาวิทยาลัยแคลลิฟอร์เนียเบอร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา

ประวัติด้านงานวิชาการ

อาจารย์และผู้บรรยายพิเศษให้กับหน่วยงานและสถานศึกษา ในหัวข้อกฏหมายสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน  การเมืองการปกครองไทย

ประวัติด้านงานการเมือง

• สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 13  3 สมัย (ปี พศ.2538-2539 พรรคประชากรไทย,2544-2548,2548-2549 พรรคไทยรักไทย)
• เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร

• เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี สมชาย วงสวัสดิ์
• เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
• กรรมาธิการ การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
• กรรมาธิการ ติดตามป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สภาผู้แทนราษฏร กรรมาธิการ การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร