“ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายเอกฉัตร อัศวรุจิกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด และ ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สคูลดิโอ จำกัด ถึงกุญแจความสำเร็จ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจต่อไปในปีนี้
โดยนายเอกฉัตร อัศวรุจิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน เจ้าหน้าฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดที่เราเรียกว่าประสบความสำเร็จ โดยมองว่ายังมีอีกหลายจุดที่สามารถพัฒนา และเติบโตขึ้นได้อีก แต่ปัจจัยที่ทำให้ สกิลเลน เอดูเคชั่น เป็นบริษัทอัตราการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชีย ในธุรกิจการศึกษา มาจากกลยุทธ์ของบริษัท ที่มองการสร้างอีโคซิสเต็ม ด้านการศึกษาออนไลน์ขึ้นมา ทั้งตัวธุรกิจ หลักสูตร และ ผู้สอน
โดยธุรกิจสกินเลน ประกอบด้วย 4 ธุรกิจหลัก คือ 1. SkillLane for Public เว็บไซต์สกินเลน แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไป ครอบคลุมความรู้และทักษะในหลากหลายสาขา ให้เลือกเรียนตามความชอบและความสนใจ, 2. SkillLane for Business สำหรับองค์กรต่างๆ ที่ต้องการเสริมความรู้ ยกระดับทักษะต่างๆ ที่จำเป็นของบุคลากร เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กร ซึ่งปัจจุบันให้บริการองค์กรชั้นนำของไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม, 3. SkillLane for University ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่จัดทำหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ภายใต้แบรนด์ TUXSA ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว สามารถเรียนในสถานที่และเวลาที่สะดวก และ 4. SkillLane CPD (Continuing Professional Development) คือ แพลตฟอร์มอบรมเก็บชั่วโมงวิชาชีพออนไลน์เพื่อต่ออายุใบประกอบวิชาชีพต่างๆ โดยให้บริการกับ ผู้ถือใบอนุญาตที่ปรึกษาการลงทุน และนายหน้าประกันภัยทุกประเภท
นายเอกฉัตร กล่าวต่อไปว่า ทั้ง 4 ธุรกิจหลักนั้นเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งธุรกิจหนึ่งเติบโตอีกธุรกิจก็เติบโตขึ้นไปด้วย นอก จากนี้ยังสามารถใช้เป็นแรงจูงใจอาจารย์ผู้จัดทำหลักสูตร โดยสามารถพัฒนาหลักสูตรขึ้นมา สอนได้ทั้งใน SkillLane for Public และ SkillLane for Business
นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วยังเป็นผลมาจากกรอบความคิดของพนักงาน ที่ถูกปลุกฝังไม่ให้หยุดอยู่กับที่ ต้องหาจุดที่พัฒนาในทุกด้าน ทั้งธุรกิจเดิม และการมองหาธุรกิจ หรือ บริการใหม่ ขณะเดียวกันคน หรือ พนักงาน ที่มีความสามารถยังเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโต โดยที่ผ่านมาเราเปิดให้พนักงานนำเสนอความคิด หรือไอเดียใหม่ๆ เข้ามา สุดท้าย คือ โควิด ที่เปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมของคนไทย ให้ยอมรับการเรียนออนไลน์มากขึ้น จนกลายเป็นความคุ้นชินในการเรียนออนไลน์
นายเอกฉัตร กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับแผนธุรกิจปีนี้ยังคงมุ่งเน้น 4 ธุรกิจหลัก ที่มองว่ามีโอกาสพัฒนา และเติบโตได้ในทุกด้าน นอกจากนี้ยังมีเพิ่มบุคลากรทางด้านการสอน เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ หรือ ความสนใจจากผู้เรียน ขณะที่ SkillLane for Business จะพยายามขยายตลาดไปยังองค์กรที่ยังไม่เคยให้บริการมาก่อน เช่นเดียวกับปริญญาโทออนไลน์ ที่ทำร่วมกับธรรมศาสตร์ ที่พยายามพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และการอบรมวิชาชีพออนไลน์เพื่อต่ออายุใบประกอบวิชาชีพต่างๆ ซึ่งจะพยายามหาวิชาซีพใหม่ๆ ในการอบรมมากขึ้น
ด้านดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สคูลดิโอ จำกัด กล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วมาจากการเห็นเทรนด์เทคโนโลยีก่อนล่วงหน้า และทีมงาน ที่เข้าใจปัญหาการศึกษา ทำ ให้การเรียนการสอนมีความสนุกไม่น่าเบื่อเหมือนอดีต ส่วนการแพร่ระบาดโควิด ส่งผลทั้งแง่ดี และแง่ลบ แง่ดีคือทำให้คนมาเรียนออนไลน์มากขึ้น และทำให้ขณะนี้คนยอมรับ และคุ้นชินการเรียนออนไลน์ ส่วนแง่ลบการแพร่ระบาดโควิด ทำให้ไม่สามารถฝึกอบรมลูกค้ากลุ่มองค์กรได้ องค์กรที่ได้รับผลกระทบตัดงบการอบรมฯ ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้จากการอบรมลูกค้ากลุ่มองค์กร อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วธุรกิจยังเติบโตอยู่
สำหรับทิศทางสคูลดิโอ นั้นเราเป็นสตาร์ทอัพ ที่ต้องการเติบโตขึ้นทุกปี โดยปีนี้จะมุ่งเน้นการขยายตลาดแบบลงลึกมากขึ้น โดยสคูลดิโอ ไม่ได้ทำธุรกิจขายครอสเรียนออนไลน์ แต่มุ่งนำเสนอโซลูชันเพื่อการพัฒนาอาชีพ ซึ่งนอกจากครอสเรียนแล้ว ยังมีการฝึกฝน ทดสอบ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายอาชีพ โดยได้เริ่มพัฒนาโปรแกรม Bootcamp ซึ่งเป็นการเพิ่มทักษะความรู้แบบเข้มข้นไปสู่สายอาชีพ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการขยายสาขาวิชาเพิ่มขึ้น รองรับกับองค์กรที่มีงบประมาณ เพิ่มทักษะดิจิทัลให้พนักงาน เพื่อรองรับการทรานสฟอร์มไปสู่ดิจิทัล โดยจะพยายามจัดหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละองค์กร โดยขณะนี้หลายหลักสูตรได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งองค์กรสามารถนำ ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 250%
นอกจากนี้ยังได้ร่วมทุนกับ จุฬาฯ เปิดการเรียนการสอนรูปแบบ Open Education Platform ภายใต้ชื่อ DegreePlus ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรแบบผสมผสานความรู้ หรือ สหวิทยาการ มีทั้งหลักสูตรระยะสั้นที่ได้รับใบรับรอง และการเก็บหน่วยกิต ไว้ในเครดิตแบงก์ เพื่อแลกกับใบปริญญาบัตร โดยจะมุ่งขยายความร่วมมือกับยังมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่สนใจมากขึ้น โดยล่าสุดได้ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล ที่เก่งด้านวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันยังได้เปิดบริษัทลูกภายใต้ Skooldio Tech เพื่อออกแบบพัฒนา แพลตฟอร์มการเรียนการสอนออนไลน์ให้กับองค์กร หรือสถาบันศึกษาที่สนใจ
ดร.วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่าปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไว้ 75% โดยทั้งเครือ สคูลดิโอ จะมีรายได้ราว 200 ล้านบาท ซึ่งมองว่าการขยายบริษัทลูกออกไป จะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด