ภารกิจ "ราฟาเอล ซิสโลว์สกี" แม่ทัพใหม่ Google ประเทศไทย ดึงพลัง AI เชื่อมทุกมิติ

จาก Google Search ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้ทันที Google Ads ที่เป็นเครื่องมือการตลาดสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด YouTube ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ไทยนับหมื่นคน Google Maps ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางและค้นหาสถานที่ ไปจนถึง Google Cloud ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับองค์กร ทุกบริการเหล่านี้ผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยหลายสิบล้านคน

ด้วยฐานผู้ใช้งานที่กว้างขวาง Google จึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และระบบนิเวศดิจิทัลเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้ Google My Business เพื่อเข้าถึงลูกค้า ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้ Google Workspace และ Google Cloud ในการดำเนินธุรกิจ

และในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญด้วยการมาถึงของเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม Google Thailand ก็เริ่มต้นบทใหม่ภายใต้การนำของผู้บริหารที่มาพร้อมประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่จะพาองค์กรและพันธมิตรทางธุรกิจไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

นายราฟาเอล ซิสโลว์สกี เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Google อย่างเป็นทางการ หลังจากคุณแจ็กกี้ หวาง ย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์ การเข้ามารับบทบาทครั้งนี้ไม่ใช่การก้าวเข้าสู่พื้นที่ใหม่สำหรับเขา เพราะราฟาเอลเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Google มากกว่า 7 ปีแล้ว โดยตำแหน่งล่าสุดก่อนมารับหน้าที่ใหม่นี้คือ Industry Sales Lead ในประเทศเวียดนาม

ประสบการณ์ของเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ใน Google เท่านั้น ก่อนหน้านี้ราฟาเอลเคยร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มอย่าง Grab และ Uber ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หล่อหลอมให้เขาเข้าใจพลวัตของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจวิธีการทำงานกับพันธมิตรในภูมิภาค และรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ธุรกิจในพื้นที่นี้ต้องการจริงๆ

"ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเราจะเป็นพันธมิตรในด้านผู้บริโภค องค์กร โครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายในอนาคต" ราฟาเอลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่น "Google จะมีความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มมากขึ้น มีความก้าวหน้ามากขึ้น และช่วยให้ระบบนิเวศเติบโต"

ดีง AI ผสานเข้ากับทุกผลิตภัณฑ์

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่เน้นย้ำคือการนำเทคโนโลยี AI มาผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการของ Google ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดของบริษัทในปีหน้า

"คุณจะเห็นคลื่นลูกใหม่ของการนำ AI มาผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด รวมถึงการปรับปรุงและอัปเดตต่างๆ" 

Google มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟีเจอร์การค้นหาข้อมูลที่กำลังพัฒนาด้วยเทคโนโลยี AI ผู้คนจะได้เห็นการค้นหาที่ทรงพลังมากขึ้น และนั่นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก

การมองเห็นอนาคตของ AI ในมุมของราฟาเอลไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่เป็นเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการทำธุรกิจอย่างแท้จริง "ยังมีโอกาสมากมายในการนำ AI ไปใช้ กรณีการใช้งานต่างๆ กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน ผู้คนจะเริ่มเข้าใจและ AI จะแพร่หลายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน"

ในอนาคตอันใกล้ ผู้บริโภคจะเริ่มเปิดใจให้ความเชื่อถือและให้การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เพื่อให้โซลูชันต่างๆ สามารถปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้มากขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นไปตามธรรมชาติของความเร็วที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนา และความเร็วที่การยอมรับและความไว้วางใจของผู้บริโภคกำลังเติบโต

สำหรับภาคธุรกิจเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ "เราจะเริ่มเห็นผู้คนทำลายโมเดลธุรกิจเดิมของพวกเขา จะเห็นคุณภาพของข้อเสนอ ความแม่นยำ และการปรับแต่งเฉพาะบุคคล วิธีการให้บริการผู้บริโภคที่ดีขึ้น ซึ่งจะแปลเป็นรายได้ และเราจะเริ่มเห็นประสิทธิภาพมากขึ้นในกำไรผ่าน AI ในปีหน้า"

แต่เขาก็เตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า "อาจจะมีช่องว่างเล็กน้อยระหว่างผู้เคลื่อนไหวเร็วและผู้เคลื่อนไหวช้า และนั่นจะเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ใหญ่สำหรับผู้เคลื่อนไหวก่อนในอนาคต" จังหวะของการนำ AI ไปใช้และการผสานรวมที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 จะเป็นตัวกำหนดว่าองค์กรไหนจะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในด้านประสบการณ์ลูกค้า รายได้ และกำไร

พา SMB ไทยก้าวสู่ตลาดส่งออก

ประเด็นที่ราฟาเอลให้ความสำคัญเป็นพิเศษและรู้สึกตื่นเต้นในระดับส่วนตัวคือการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ของไทย โดยเฉพาะในมิติของการส่งออก ซึ่งเขามองว่าเป็นโอกาสสำคัญในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามาเปิดโอกาสใหม่ๆ

"เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นการส่วนตัวที่จะช่วยเหลือบริษัทและผู้ประกอบการในประเทศไทยขยายขอบเขตไปนอกเหนือจากตลาดนี้ ไปสู่เอเชีย และอาจถึงระดับโลกด้วย" 

เพื่อให้เป้าหมายนี้เป็นจริง Google Thailand ภายใต้การนำของราฟาเอลได้วางแผนการสนับสนุน SMB อย่างเป็นระบบผ่าน 3 ขั้นตอนหลักที่ออกแบบมาให้ครอบคลุมทุกช่วงของการเติบโต

ขั้นตอนที่ 1: การดึงเข้ามาและอัพสกิล นี่คือการวางรากฐาน Google จะนำธุรกิจ SMB เข้าสู่ระบบและพัฒนาทักษะให้พร้อมรับมือกับยุค AI การให้ความรู้ การฝึกอบรม และการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือดิจิทัลและ AI จะเป็นส่วนสำคัญในขั้นตอนนี้

ขั้นตอนที่ 2: การขยายขนาด เมื่อธุรกิจมีพื้นฐานที่แข็งแรงแล้ว Google จะสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเติบโตและขยายตัวได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเติบโตที่รวดเร็ว แต่เป็นการเติบโตที่มั่นคงและสามารถดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว

ขั้นตอนที่ 3: โอกาสการส่งออก นี่คือเป้าหมายสูงสุด Google จะประเมินและสร้างโอกาสให้ธุรกิจไทยขยายตลาดไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Google Ads เพื่อเข้าถึงตลาดต่างประเทศ การใช้ YouTube เป็นช่องทางการตลาดสากล หรือการใช้ Google Cloud เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในระดับภูมิภาคและโลก

"ผมคิดว่ามีแง่มุมสำคัญเกี่ยวกับ SMB และการส่งออก และวิธีที่เราจะช่วยให้พวกเขาเติบโตในยุค AI ด้วยโซลูชันทั้งหมดของเรา" 

มากกว่าบริษัทเทคโนโลยี คือพันธมิตรในการสร้างอนาคต

สิ่งที่ชัดเจนจากวิสัยทัศน์ของราฟาเอลคือการมอง Google ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มาขายผลิตภัณฑ์และบริการ แต่เป็นพันธมิตรที่จะเติบโตไปพร้อมกับระบบนิเวศดิจิทัลของไทย เป็นองค์กรที่มีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยอย่างแท้จริง

การเน้นย้ำถึงความร่วมมือในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านผู้บริโภค องค์กร โครงสร้างพื้นฐาน และแม้กระทั่งนโยบาย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดขายหรือขยายส่วนแบ่งตลาด แต่เป็นการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับสังคมไทย