KEY
POINTS
นายราฟาเอล ซิสโลว์สกี ผู้จัดการประจำประเทศไทย Google เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกในรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (e-Conomy SEA Report) ฉบับครบรอบ 10 ปี ร่วมกับ Temasek และ Bain & Company ชี้ภาพรวมภูมิภาคก้าวข้ามการเติบโตแบบก้าวกระโดดเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
ขณะที่ประเทศไทยยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน พร้อมสร้างสถิติการเติบโตของภาคอีคอมเมิร์ซที่เร็วที่สุดในภูมิภาค โดยมี ‘วิดีโอคอมเมิร์ซ’ เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก และเตรียมพร้อมก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยกลยุทธ์ AI ระดับชาติที่แข็งแกร่ง
อาเซียนถึงจุดเปลี่ยน มูลค่า 9.75 ล้านล้านบาท มุ่งสู่ยุค AI
นายราฟาเอล กล่าวเปิดเผยข้อมูลว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้บรรลุเป้าหมายที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท) ได้เร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี และขณะนี้ มูลค่ารวมของเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนกำลังก้าวไปสู่ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.75 ล้านล้านบาท)
การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการที่ผู้คนกว่า 200 ล้านคน ได้เข้ามาสู่ระบบออนไลน์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้ 60% ของธุรกรรมทั้งหมดในปัจจุบันกลายเป็นรูปแบบดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูมิภาคนี้ได้ขยายขอบเขตรายงานเป็น 10 ประเทศเป็นครั้งแรก เพื่อให้เห็นภาพรวมที่สมบูรณ์ของความก้าวหน้า
นายราฟาเอล ย้ำว่า ขณะนี้โลกกำลังก้าวเข้าสู่ “ยุค AI” ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังรวมเทคโนโลยี AI เข้ามาในการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวัน และ Google มีความเชื่อมั่นว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางอนาคตของภูมิภาค
ไทยรักษาอันดับ 2 คาด GMV แตะ 1.82 ล้านล้านบาท
แม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาและภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยยังคงแสดงความแข็งแกร่งและเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในอาเซียน โดยยังคงเป็น เศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค
รายงานคาดการณ์ว่า มูลค่าสินค้ารวม (GMV) ของไทยจะสูงถึง 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.82 ล้านล้านบาท) ในปี 2568 เพิ่มขึ้น 16% จาก 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5925 ล้านล้านบาท) ในปี 2567 ซึ่งเป็นการเติบโตแบบทวีคูณถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ไทยยังเป็นตลาดวิดีโอคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของผู้บริโภคชาวไทย โดยเราเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคธุรกิจหลักๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้จะเผชิญกับความท้าทายจากหลายด้าน”
อีคอมเมิร์ซนำโด่ง วิดีโอคอมเมิร์ซแรง
ภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โดยเป็น ตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน (โตขึ้น 22% จากปีที่ผ่านมา) และคาดว่าจะแตะ 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท) ในปี 2568
ปัจจัยสำคัญของการเติบโตนี้คือ วิดีโอคอมเมิร์ซ ที่กำลังเฟื่องฟู โดยพบข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจดังนี้:
• ผู้ขายสินค้าผ่านวิดีโอ: มีผู้ขายมากถึง 850,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 175% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้ไทยเป็นตลาดที่มีจำนวนผู้ขายสินค้าผ่านวิดีโอที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคนี้
• ปริมาณธุรกรรม: ไทยเป็นตลาดวิดีโอคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค ด้วยปริมาณธุรกรรมที่สูงถึง 1.3 พันล้านครั้ง
• สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ เป็นกลุ่มสินค้าที่มีส่วนร่วมของผู้บริโภคสูง โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 21% ของมูลค่าสินค้ารวมของวิดีโอคอมเมิร์ซ
นายวิลลี่ ชาง Partner, Bain & Company กล่าวเสริมว่า ภูมิภาคนี้มีการเติบโตและความสามารถในการฟื้นตัวที่โดดเด่น โดย GMV เศรษฐกิจดิจิทัลไทยมีแนวโน้มเติบโตถึง 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 ซึ่งขับเคลื่อนโดยภาคอีคอมเมิร์ซที่เติบโตถึง 22% จากปีที่ผ่านมา และธุรกิจวิดีโอคอมเมิร์ซที่กำลังเฟื่องฟู
การท่องเที่ยวออนไลน์-บริการการเงินดิจิทัล ยังโต
นอกเหนือจากอีคอมเมิร์ซ ภาคธุรกิจหลักอื่นๆ ก็มีแนวโน้มการเติบโตในเชิงบวกเช่นกัน:
• การท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel): คาดว่าจะโตขึ้น 6% และมีมูลค่าสินค้ารวมแตะ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.57 แสนล้านบาท) ในปี 2568 แม้ภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวช้า แต่ไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายรัฐบาลที่ขยายโครงการยกเว้นวีซ่าให้ครอบคลุม 93 ประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง เช่น อินเดียและตะวันออกกลาง
• การขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ (Transport & Food Delivery): คาดว่าจะมีมูลค่าสินค้ารวมอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.62 แสนล้านบาท) ในปี 2568 โดยโตขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มต่างๆ เน้นสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยเพิ่มข้อเสนอที่หลากหลาย เช่น แพ็กเกจสมาชิก บัตรกำนัลรับประทานอาหารภายในร้าน และโฆษณาในแอป
• สื่อออนไลน์ (Online Media): คาดว่ามูลค่าสินค้ารวมจะแตะ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.27 แสนล้านบาท) ในปีนี้ โดยเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 8% โดยได้รับแรงหนุนจากโฆษณาที่มาจากการขยายเครือข่ายสื่อค้าปลีก และการทำแคมเปญโฆษณาที่หลากหลาย
• บริการด้านการเงินดิจิทัล (Digital Financial Services หรือ DFS): เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ ความมั่งคั่งทางดิจิทัล (Digital Wealth) คาดการณ์เติบโต 29% มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) แตะ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.12 แสนล้านบาท) ในปี 2568 ด้าน บริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Lending) คาดว่ามียอดสินเชื่อคงค้างสูงถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.52 แสนล้านบาท) ในปี 2568 นอกจากนี้ คาดว่าจะมีธนาคารดิจิทัล 3 แห่งได้รับอนุมัติใบอนุญาตให้เริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2569
ไทยพร้อมเป็นผู้นำ AI อาเซียน
รายงานระบุว่าประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI ด้วยการดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรระดับประเทศอย่างแข็งขัน
• ความพร้อมของบุคลากร: จำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Generative AI ในไทยเพิ่มขึ้นถึง 3.3 เท่า
• ความพร้อมของผู้ใช้: ผู้ใช้ชาวไทยแสดงความพร้อมในระดับสูง โดย 76% โต้ตอบกับเครื่องมือ AI ทุกวัน และ 56% สนทนากับแชทบ็อต AI
• ความต้องการพัฒนาทักษะ: ผู้ใช้จำนวนมาก (79%) กำลังเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้าน AI อยู่แล้ว โดยแรงจูงใจหลักในการใช้ AI คือช่วยประหยัดเวลาในการค้นคว้าและเปรียบเทียบ (45%)
นายราฟาเอล กล่าวสรุปว่า “การดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรระดับประเทศของรัฐบาลเพื่อยกระดับทักษะแรงงานไทยในด้านความสามารถทางดิจิทัลและ AI ประกอบกับการที่ภาคส่วนต่างๆ นำ AI มาใช้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นผู้นำสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของอาเซียน เรายังคงมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ ภาคธุรกิจ และชุมชนของไทย เพื่อปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต”