“ทรู” ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ มุ่งสู่ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน
"ทรู" ปรับโครงสร้างปรับธุรกิจครั้งใหญ่ มุ่งสู่ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน พร้อมเสริมเขี้ยว AI ให้บริการแบบครบวงจร เตรียมประกาศรายชื่อผู้บริหารเข้ามารับผิดชอบ
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2568 มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กใหม่ ภายใต้โครงสร้างใหม่นี้ นายซิกเว่ เบรกเก้ ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม (Group CEO)
ล่าสุดวันนี้ 7 สิงหาคม 2568 นายซิกเว่ เบรเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม (Group CEO) ได้แถลงแผนธุรกิจครึ่งปี 2568 ว่า บอร์ด ทรู ได้ประกาศปรับโครงสร้างใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 แต่งตั้งผู้บริหารรับผิดชอบในแต่ละสายงานดังต่อไปนี้
- นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านประสบการณ์ลูกค้าและธุรกิจรีเทล
- นายซารัด เมห์โรทรา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคล
- นายคูรัม อัชฟาค หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเครือข่าย
- นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านโฮมคอนเนคทิวิตี้ ดูแลรับผิดชอบด้านบริการบรอดแบนด์ ความบันเทิงและโซลูชันสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ
- ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร
นายซิกเว่ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับกลุ่มทรู จะขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะประกาศรายชื่อหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เช่นเดียวกับหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จะประกาศภายในวันที่ 1 กันยายน 2568
"เป็นครั้งแรกของทรู คอร์ปอเรชั่นที่แต่งตั้งผู้บริหาร คือ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Chief Data and AI Officer) เพื่อขับเคลื่อนการเป็น AI First Company อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้ง การแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรับหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะ เพื่อออกแบบระบบการจัดการ ให้ทันกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว"
การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป 5 ด้าน คือ ผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้า บริการดิจิทัลเพื่อความสุขในบ้าน ,เร่งการเปลี่ยนแปลงธุรกิจลูกค้าองค์กรสู่ดิจิทัล,ขับเคลื่อนด้วย AI และ มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างแท้จริง
นายซิกเว่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในระยะ 6 เดือนข้างหน้าได้วางเป้าหมายชัดเจนเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกด้าน โดยด้านเครือข่ายเราจะเสร็จสิ้นโครงการ One Network 100% ภายในเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับสัญญาณ 5G/4G ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น โดยคลื่นความถี่ 2300 MHz ที่ประมูลมาล่าสุดจำนวน 70 MHz ซึ่งมีความจุเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 10 MHz จะทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 17% ทันที และคลื่น 2300 MHz สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ทรูจะยกระดับประสบการณ์ใช้งาน 5G บนคลื่น 2600 MHz ด้วยการใช้เทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ที่จะช่วยให้การใช้งานสัดส่วน 5G และ 4G ยืดหยุ่นตามสัดส่วน และ 5G จะสามารถเปิดให้บริการเต็มศักยภาพแบนด์วิดท์ทั้ง 90 MHz และเริ่มใช้คลื่นใหม่ 1500 MHz เพื่อเพิ่มความจุดาวน์ลิงก์ร่วมกับคลื่นย่านความถี่ต่ำแบนด์อื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วเครือข่ายอีกด้วย
ด้านการบริการดิจิทัล บริษัทฯ ตั้งเป้าให้ลูกค้าทุกรายสามารถทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันได้ครบทุกรูปแบบ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีลูกค้าหันมาใช้ช่องทางดิจิทัลแล้ว 19% และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านประสบการณ์ลูกค้า จะมอบการบริการไร้รอยต่อทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน คอลเซ็นเตอร์ หรือแอปพลิเคชัน โดยลูกค้าสามารถเริ่มต้นธุรกรรมในช่องทางหนึ่งแล้วไปทำต่อในอีกช่องทางได้อย่างต่อเนื่อง เช่น สอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์แล้วมาดำเนินการต่อที่หน้าร้าน หรือสลับไปใช้แอปได้ทันที เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ทุกความต้องการอีกด้วย
ส่วนผลประกอบการทรู ในไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิ 2.0 พันล้านบาท จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 47.5 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน จำนวน 32.4 ล้านราย และ ระบบรายเดือน จำนวน 15.2 ล้านราย , บริการธุรกิจออนไลน์ มีลูกค้าจำนวน 3.8 ล้านราย และ ระบบโทรทัศน์บอกรับสมาชิกจำนวน 1.1 ล้านราย.