ในงาน Bangkok International Digital Content Festival ครั้งที่ 7 หรือ BIDC 2020 ซึ่งเพิ่งปิดเวทีไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา จึงไม่พลาดที่จะเชิญตัวท็อปแห่งวงการสตรีมเมอร์ มานั่งคุยผ่านจอสารพัดประเด็น ทั้งการเข้าสู่วงการ, ต้องทำตัวอย่างไรถึงจะรุ่ง, เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้ามีปัญหา ต้องแก้ยังไง รวมถึงแนวโน้มในอนาคตของวงการนี้ไปในทิศทางใด เพื่อให้คนที่สนใจอยากเข้าสู่สายอาชีพนี้ และบรรดาแฟนคลับวงการเกมรับฟังรับชมกันอย่างจุใจผ่าน Webinar กับหัวข้อ “Thai Streamer: Dare to dream!” โดย Magic Box Digital นำ 2 สตรีมเมอร์มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองดีดีครั้งนี้
“ชนินทร์ ปรีเปรม (กอล์ฟ)” หรือที่รู้จักกันดีในนาม หัวเห็ด (HuaHed) มีช่องทางให้เข้าไปติดตามได้ที่เพจ HuaHed เป็นครีเอเตอร์สายตลกเฮฮา น้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์และไม่ว่าจะเล่นเกมอะไรสามารถดึงคนดูได้อยู่หมัด ปัจจุบันเป็นสตรีมเมอร์อาชีพ ที่มีผู้ติดตามถึง 1 แสนคน เป็นนักเล่นเกมในระดับ Pro Player สังกัดอยู่ในทีมที่ทุกคนยกให้เป็นตัวเก็งในทุกการแข่งขันอีสปอร์ต
“เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนนี้อายุ 26 ปี ขยับจากผู้เล่น (เกมเมอร์) มาเป็นเกม สตรีมเมอร์ เล่นให้คนดู และเนื่องจากเคยเป็นดีเจอสายทอล์คโชว์บนแอพดังอยู่แล้ว จึงมีคาแรคเตอร์โดดเด่นด้วยการผสมเกมกับทอล์คโชว์ เริ่มแรกที่มีคนชวนมาทำตรงนี้ ผมจัดเวลาไว้วันละ 1-2 ชม. ก็โอเคกับรายได้และเวลา ทำให้ตัดสินใจว่าหลังเรียนจบปริญญาตรีในสาขานิเทศศาสตร์ (ทีวี) จะไม่ทำอาชีพอื่น มุ่งมั่นเข้าวงการเกม”
เมื่อถามว่าได้อะไรจากการเล่นเกม กอล์ฟ บอกว่า หลักๆ คือ ได้เพื่อน รู้จักคนใหม่ๆ ในวงการเกม เติบโตมาด้วยกัน จนคุ้นเคยกันถึงวันนี้ เพราะเขาทุ่มเวลาให้กับตรงนี้ด้วย ใช้เวลากับการสตรีมเกมอย่างมาก จนเข้าอยู่ในการรวมกลุ่มคนที่เล่นเก่งๆ ไปแข่งขัน และเคยมีประสบการณ์ไปแข่งในเวทีต่างประเทศมาแล้ว คว้าชัยทั้งจากเกาหลี และจีน แต่เมื่อวันนี้เลือกแล้วว่า อาขีพหลักคือ Streamer จึงไม่ค่อยได้สนใจเดินสายแข่งขัน
“อาชีพสตรีมเมอร์ ส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยตัวเลขคนตามหลักสิบ แต่ผมโชคดีมีฐานแฟนคลับจากที่เคยเป็นนักแข่ง(เกม) จึงใช้เวลาราว 2 เดือน ก็ไต่หลักร้อยแล้ว ช่วงใหม่ๆ ก็ใช้เวลากับการไลฟ์เกมอย่างต่ำ 250 ชั่วโมงต่อเดือน แต่พอเริ่มโตขึ้น ต้องมีงานบริหารเข้ามา มีธุระส่วนตัวเข้ามาแบ่งเวลาไป ทุกวันนี้ก็ลดเวลาสตรีมเกมเหลือวันละ 8-12 ชั่วโมง เล่นไปกินข้าวไปด้วย”
ส่วนวิธีการรักษาฐานแฟนคลับหลักแสนที่มีอยู่ เน้นความเป็นกันเอง จำหน้าตารูปไอคอนแฟนประจำได้ก็จะทักทาย ไม่เคยจัดมีทติ้ง กลัวว่าอาจดูแลไม่ทั่วถึงเพราะแฟนคลับแยะ แต่มีคนตามเชียร์เวลาลงแข่ง และสำคัญที่สุดคือ คนทำอาชีพนี้ต้องมีวินัย อย่าหยุดสตรีมบ่อย เพราะคนที่คอยติดตามอยู่จะเหงา
จากที่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการเกมมา 10 กว่าปี ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมากของแพลตฟอร์มการเล่นเกม มีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เกิดขึ้น ที่มาจากต่างประเทศก็เยอะ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้มีนักสตรีมเมอร์หน้าใหม่ๆ เข้าสู่วงการ เปลี่ยนจากการเป็นผู้ชมสู่การเป็นคนสตรีมเอง ปัจจุบัน “สตรีมเมอร์” จึงเป็นวงการที่การแข่งขันสูง ดังนั้นคนที่จะดึงฐานคนติดตามหรือแฟนคลับไว้อยู่หมัด ต้องมีทั้งสกิลการเล่นที่ดี (ไม่จำเป็นว่าต้องเก่งมาก เพราะคนไม่ได้อยากดูคนที่เล่นเก่งกว่าเสมอไป) ให้คำแนะนำการเล่นกับแฟนคลับได้ มีสไตล์ของตัวเองไม่เลียนแบบใคร สร้างความเพลิดเพลิน และความตื่นเต้นระหว่างการสตรีมเกม ซึ่งโดยส่วนตัวเขาโชคดีที่เป็นคนคุยเก่งอยู่แล้ว
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากเข้ามาอยู่ในวงการ ยุคนี้ต้องหาช่องทางที่เข้าถึงง่ายมากๆ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ เริ่มจากการทำคลิปก่อน แต่สิ่งหนึ่งก็คือ ถ้าไม่มีชื่อเสียงจากการแข่งขันจะเกิดยาก ผมเลือกแพลตฟอร์มการเล่นเกมบนเฟซบุ๊ก เพราะคนไทยเกือบทั้งประเทศใช้อยู่ เข้าถึงง่าย รองรับกลุ่มคนได้หลากหลายช่วงอายุ ฐานผู้ชมกว้าง”
อีกหนึ่งสตรีมเมอร์ที่มาแรงตอนนี้ ก็คือ “นริศรา อุเอะมะ (เฟิร์น)” สตรีมเมอร์สาว น่ารักพูดเก่ง แห่งเพจ LUNAMOONChannel เธอเป็นตัวแม่ในสตรีมเมอร์สายเอ็นเตอร์เทน ด้วยคาแรคเตอร์ชัดที่มาพร้อมความสดใสน่ารัก คนที่ติดตามจะสัมผัสได้ถึงแนวความคิดที่ดี มีวิธีรับมือแฟนคลับในวิธีที่เรียกความเซอร์ไพรส์ได้ เข้าสู่วงการได้ไม่ถึง 2 ปี แต่มียอดผู้ติดตามแล้วราว 4 แสนคน มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน จากบรรดาเจ้าของสินค้า, สปอนเซอร์ต่างๆ ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในแวดวงสินค้าไอที, เกม แต่ขยายไปถึงผู้ให้บริการในกลุ่ม Food Delivery อีกด้วย
“เฟิร์น” เล่าว่า ไม่เคยทำงานประจำ ก่อนหน้านี้ช่วยธุรกิจครอบครัว แต่ได้รับแรงบันดาลใจทั้งจากพี่ชายและน้องชาย ซึ่งเป็นเกมสตรีมเมอร์มาก่อนหลายปี และเมื่อเห็นตัวเลขรายได้ จึงสนใจอยากเข้าสู่วงการนี้บ้าง เพื่อมีรายได้เสริมนอกเหนือจากที่รับเงินเดือนจากที่บ้าน
“เริ่มสตรีมมาเกือบ 2 ปี พี่ชายเป็นคนดึงเข้าสู่วงการ แต่ไอดอลจริงๆ ก็คือ น้องชาย เพราะแม้จะมียอดคนตามไม่มาก แต่ทุกครั้งที่ขึ้นสตรีม เขาจะสนุกกับเกมนั้น เราเคยเป็นแค่คนดูมาก่อน ทุกครั้งที่ดูน้องสตรีม เราจะรู้สึกสนุก และอยากเป็นบ้าง”
ช่วงเริ่มต้นคิดว่า แค่มียอดคนตามหลักพันก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะตัวเลขรายได้ต่อเดือนก็น่าจะแตะ 5 หลักอย่างที่พี่ชายเคยชักชวนไว้ แต่พอเข้ามาทำแค่ 3 เดือน ผลลัพธ์เกินคาดอย่างมากมียอดแฟนคลับติดตามมากว่าเพจของพี่ชายและน้องชาย และมีรายได้เป็นเลข 6 หลัก โดยเธอเลือกสตรีมบนแพลตฟอร์มือถือ/แท็บเล็ต เพราะคนเล่นเกมส่วนใหญ่เล่นบนแพลตฟอร์มนี้ ทำให้คุยกันง่าย
เทคนิคในการดึงแฟนคลับให้ติดตามเหนียวแน่น ส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นคนเข้าถึงง่าย อารมณ์ดี ตาย(ในเกม)ก็ยังนั่งหัวเราะได้ โดยเธอบอกว่า “ไม่เอาเครียด เพราะทุกวันนี้ชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ก็เครียดอยู่แล้ว เมื่อมาเล่นเกมกับเรา มาดูเรา ก็อยากให้เขาผ่อนคลาย ผู้ชมคุยกับเราได้ทุกเรื่อง”
อย่างไรก็ตาม การสตรีมเกมแต่ละครั้ง ต้องใช้พลังงานอย่างมาก ดังนั้นต้องมีเทคนิคการดูแลตัวเอง เตรียมตัวพักผ่อนให้เต็มที่ และช่วงก่อนเริ่มไลฟ์เกมสตรีม จะฟังเพลงบิวด์อารมณ์ ซึ่งในเรื่องการเปิดเพลงระหว่างการสตรีมนั้น ชาวสตรีมเมอร์ทุกคนมีข้อระวังคือ มักเจอปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลง เฟซบุ๊กจะขึ้นแจ้งเตือน และแม้ช่อง(เพจ)ไม่บิน แต่ก็อาจทำให้การเข้าถึงผู้ชม/ผู้ติดตามลดลง
ท้ายสุดนี้ สองสตรีมเมอร์คนดังแห่งวงการเกมบ้านเรา ได้ให้ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า สำหรับคนที่อยากเข้าสู่อาชีพนี้ จุดเริ่มต้นควรทำเป็น “อาชีพเสริม” ก่อน เพราะปัจจุบันวงการนี้แข่งขันสูง มีจำนวนสตรีมเมอร์เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นต้องค่อยๆ ทดลอง ค้นหาตัวเอง หาจุดเด่นของตัวเอง หาฐานแฟนคลับ และเมื่อถึง “จังหวะ” ก็จะรับรู้ได้เองว่าเริ่มเป็นอาชีพหลักได้แล้ว ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร เป็นส่วนสำคัญที่จะดึงใจแฟนคลับ/ผู้ติดตามให้อยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น