ผ่านวัตกรรม ‘ตู้เติมเงินมือถือ’

ถึงตอนนี้ต้องบอกว่า "ตู้เติมเงินมือถือ" ไม่ได้จำกัดเฉพาะเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สามารถต่อยอดไปยังบริการอื่นเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำเปล่า น้ำดำ และ น้ำผลไม้ รวมไปถึงตราช่างน้ำหนัก

เหตุผลที่บรรดาตู้เติมเงินมือถือ มีแผนต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม เนื่องจากการแข่งขันทางด้านการตลาด เพราะปัจจุบันคู่แข่งมีมากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีโดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4 จี ได้เปลี่ยนบทบาท และ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง

 "บุญเติม" ต่อยอดเวนดิ้งแมชีน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ตู้บุญเติม" ซึ่งบริหารจัดการโดย บริษัท ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART จากเดิมที่ให้บริการเติมเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่ทว่า "บุญเติม" ได้พัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบริการเสริมเครื่องชั่งน้ำหนัก ขยายหมวดหมู่มายังจ่ายบิลและชำระค่าสินค้าทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และ ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าปรับ ซื้อโปร/แพ็กเสริมและอินเตอร์เน็ต ดูดวง เติมเกม เติม Wallet และ ซื้อรหัสบัตร

อย่างไรก็ตาม วันนี้ "บุญเติม" มีจำนวนตู้เติมเงินทั่วประเทศ 9 หมื่นตู้ พร้อมตั้งภายใน 3 ปีติดตั้งตู้ได้ทั้งหมด 1.7 แสนตู้ แบ่งเป็น ปี 2560 จำนวน 1.2 แสนตู้ มูลค่าเติมเงิน 3 หมื่นล้านบาท,ปี 2561 จำนวน 1.45 แสนตู้มูลค่าเติมเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และ ปี 2560 อยู่ที่ 1.7 แสนตู้

แต่ทว่า รูปแบบธุรกิจ ไม่ได้จำกัดแต่เพียง เป็นตู้เติมเงิน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตู้จะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นแบบ เวนดิ้งแมชีน ให้บริการทั้งน้ำดื่มทุกประเภท และ สิ่งที่เพิ่มเติมเข้าไป คือ แอพพลิเคชั่นภายใต้ชื่อ "Be Wallet" กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟน และ ยังเตรียมเปิดให้จองตั๋วคอนเสิร์ต และเครื่องชาร์จแบตมือถือ

นอกจากนี้แล้วธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ตู้ บุญเติม สมารถฝากเงิน จ่ายเงิน หรือ โอนเงิน ไปยังธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกสิกรไทย ได้อีกด้วย โดย ตู้บุญเติม ยังได้แต่งตั้งจากธนาคารกรุงไทย และ กสิกรไทย อาทิเช่น ถ้าโอนเงิน 5,000 บาทเสียค่าธรรมเนียม 70 บาท เป็นต้น

"ปีนี้สัดส่วนยอดเติมเงินของบริษัทอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง จากเติมเงินมือถือจะลดลงอยู่ที่ 90% จากปีก่อนที่มีกว่า 95% เนื่องจากสัดส่วนยอดเติมเงินในส่วนของการเติมเงินอื่นๆเพิ่มขึ้น เช่น บริการโอนเงิน บริการเครื่องชั่งน้ำหนัก ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการ เช่นเดียวกับรายได้จากบริการใหม่ๆ
ภายในตู้ที่เพิ่มขึ้น จากการเจรจากับพันธมิตรตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน การจ่ายบิลและชำระสินค้าออนไลน์ผ่านบุญเติม การซื้ออินเตอร์เน็ต และโปรเสริมของเครือข่ายต่างๆ รวมไปถึง การดูดวง การเติมเกม การซื้อประกันภัยผ่านตู้บุญเติม ตลอดจนการเติม Wallet และซื้อรหัสบัตร " นั่นคือคำบอกเล่าของ นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)

  "ทรู"ปิ๊งไอเดียสวอปซิม

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานสัมมนาพันธมิตรคู่ค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ชื่อว่า "Together Strongerชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เกิดจากใจที่ร่วมกัน" โดยจัดขึ้นเพื่อขอบคุณและเพิ่มความเชื่อมั่นในการเป็นพันธมิตรคู่ค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

หากแต่จุดที่น่าสนใจ คือ การที่ ทรู เปิดตัวตู้เติมเงิน "ทรู" ให้กับพันธมิตรทั่วประเทศ และ เปิดรับออร์เดอร์ด้วยนั้น โดยมีกระแสข่าวว่าจะติดตั้งจำนวนทั้งสิ้น 4 หมื่นตู้ทั่วประเทศ

เรื่องนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รับคำยืนยันจากเจ้าสัวศุภชัย (นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร กลุ่มทรู ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนติดตั้งตู้เติมเงินทรู ภายในร้านทรูคอฟฟี่ และจะเข้าไปติดตั้งเสริมในบริเวณพื้นที่ที่ยังไม่มีการดำเนินติดตั้ง เช่น หอพัก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีแผนทำตู้เติมเงินสวอปซิม (ย้ายค่ายมือถือ), ตู้ขายซิมการ์ด และ เติมทรูวิชั่นส์ รวมไปถึงบริการอย่างอื่นด้วย เพราะประเทศไทยได้เข้าสู่ยุค IOT (Internet Of Thing)
นอกจากนี้แล้ว นายศุภชัย ยังกล่าวเพิ่มเติม บริษัทฯไม่มีนโยบายถอดตู้เติมเงินที่ติดตั้งหน้าร้าน 7-11 จำนวน 8 พันจุด เนื่องจากอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า แล้วยังแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้กับ 7-11 ดีอีกด้วย

"ไม่มีหรอกครับ เพราะ 7-11 มีนโยบายที่ไม่ discriminate (แบ่งแยก) อะไรอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมา 7-11 รับเติมเงินให้ทั้ง เอไอเอส และ ดีแทค ทำแบบยิงบาร์โค้ดให้ "ดีแทค" แต่ "เอไอเอส" กังวลว่าจะใช้ฐานข้อมูลลูกค้า"

 กะปุ๊กท๊อปอัพ ผุดแอพ

ขณะที่ตู้เติมเงิน กะปุกท๊อปอัพ ซึ่งบริหารจัดการโดย บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จากเดิมที่ให้บริการเติมเงินผ่านระบบเว็บไซต์ www.siamtopup.com มีจำนวนยอดสมาชิก 10,000 คน และ ได้ขยายฐานต่อยอดมาพัฒนาเป็นตู้เติมเงิน "กะปุกท๊อปอัพ" ปัจจุบันมีตู้เติมเงินให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 10,000 ตู้ และ ไม่ได้จำกัดเฉพาะเติมเงินมือถือแต่เพียงอย่างเดียว ยังให้บริการชำระบิล ซื้อบัตรเกมออนไลน์/บัตรเงินสด/ บัตรโทรศัพท์ และ บริการแบบออนไลน์

นอกจากแล้วยังเปิดให้บริการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น "QPay" เป็นระบบการแจ้งเตือนในการทำธุรกรรมผ่าน "กะปุกท๊อปอัพ"

"เป้าหมายการติดตั้งของ กะปุ๊กท็อปอัพ คือ ขยายไปยังต่างจังหวัดเพราะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นระบบเติมเงิน จากข้อมูลสถิติพบว่าผู้ใช้งานประมาณ 70 % ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด 82 ล้านเลขหมายทั่วประเทศ คิดเป็น 122% จากจำนวนประชากรทั้งหมด เป็นแบบเติมเงิน 83% แบบรายเดือน 17% แบ่งเป็นระบบ 3จี - 4จี ประมาณ 98% โดยมีอัตราการเติบโตจากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 21% จากจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดีย19% จำนวนผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กบนสมาร์ทโฟน21% ขณะที่จำนวนหมายเลขโทรศัพท์ที่จดทะเบียนลดลง 15%" นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของ นายธนัญชัย สมุหวิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)

และ ทั้งหมด คือ นวัตกรรมผ่านตู้เติมเงินมือถือ ต่อไปไม่จำกัดเฉพาะตู้เติมเงินเท่านั้น หากแต่ตู้เติมเงินจะเข้ามารองรับการมาของ IOT

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,242 วันที่ 9 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2560