In Brief
เอ็กโก กรุ๊ป จัดสรรงบ 2 ปี 6 หมื่นล้านบาท ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “POWER4” เร่งขยายพอร์ตธุรกิจไฟฟ้า ปี 2569 ทุ่ม 3 หมื่นล้านบาท ไล่ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในสหรัฐอเมริกา 2 โครงการ จ่อปิดดีลกลางปี พร้อมเตรียมพิจารณาใช้ 6 พันล้านบาท ซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ 4 โครงการ รวมกำลังผลิต 637 เมกะวัตต์ หนุนสัดส่วนพลังงานเพิ่มเป็น 30% ในปี 2573
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดกลยุทธ์ การดำเนินงานในช่วงปี 2569-2570 เพื่อให้สอดรับกับบริบทของสถานการณ์เศรษฐกิจและพลังงานโลกที่มีความไม่แน่นอน ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลง ทางด้านนโยบายพลังงาน และมาตรการกีดกันทางการค้า ด้วยกลยุทธ์ “POWER 4” ภายใต้แนวคิด “Ensuring long-term value and a cleaner energy future” ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 และความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 เพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (Net Zero) ภายในปี 2593
ผ่านการขับเคลื่อน 4 ด้าน ได้แก่
Profitability and Performance Energizin : เพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง รักษาเสถียรภาพทางการเงิน เพื่อดูแลอัตราส่วนหนี้สินและรักษาอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท
Power and Energy-related Focus : มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าทั้งก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค เช่น ซัพพลายเชนไฮโดรเจน โครงการ PPA พลังงานแสงอาทิตย์ภาคเอกชน (Solar Private PPA) ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าคุณภาพสูงและต่อเนื่อง
และ Proactive Organization Excellence : การปรับโครงสร้างองค์กร พัฒนาความสามารถและบุคลากร (talents and competency development) รวมถึงการสร้างองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในระดับสากล และปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจด้วยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว ในช่วง 2 ปีนี้(2569-2570) เอ็กโก จะจัดสรรงบลงทุนไว้ราว 60,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติคุณภาพสูงและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ผ่านการลงทุนทั้งรูปแบบ M&A และ Greenfield โดยต่อยอดและเน้นการลงทุนในประเทศที่มีฐานธุรกิจและพันธมิตรใน 7 ประเทศ อยู่แล้ว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานธุรกิจที่สำคัญที่ได้เข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และในอินโดนีเซีย ที่ขยายการลงทุนผ่าน CDI Group
สำหรับในปี 2569 เอ็กโก จะใช้เงินลงทุนราว 30,000 ล้านบาท โดยจะจัดสรรไว้สำหรับโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ สัดส่วนราว 80% และการลงทุนในด้านพลังงานหมุนเวียนราว 20% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยในส่วนของการซื้อกิจการหรือหุ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาอย่างน้อง 2 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้กำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอีกมาก จากปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 1,024 เมกะวัตต์
ขณะที่การจัดสรรเงินลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัดส่วนการืถอหุ้นราว 112 เมกะวัตต์ จากกำลัผงิตติดตั้ง 637 เมกะวัตต์ ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ได้เข้าไปถือหุ้นอยู่ในบริษัท เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง แอลแอลซี (APEX) บริษัทพัฒนาพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา สัดส่วน 17.46% ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Bowman Wind มีกำลังผลิตติดตั้ง 209 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่รัฐนอร์ทดาโคตาคาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD)ได้ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2569
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Lotus Wind ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ มีกำลังผลิตติดตั้ง 200 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2569 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Rocky Forge Wind ในรัฐเวอร์จิเนีย ด้วยกำลังผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2569 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Coldwater Solar ตั้งอยู่ที่รัฐมิชิแกน มีกำลังผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ช่วงไตรมาสแรก ปี 2569 โดยเงินที่จัดสรรไว้ 6,000 ล้านบาท มีความเป็นไปได้ที่เอ็กโก กรุ๊ป จะพิจารณานำไปซื้อหุ้นหรือโรงไฟฟ้าทั้ง 4 โครงการได้ หลังจากที่ได้เริ่ม COD แล้ว
ส่วนการลงทุนในไทย ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป ได้ชนะการประมูลใน โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากพลังงานแสงอาทิตย์ (REBig Lot) รอบที่ 2 จำนวน 11 โครงการคิดเป็นกำลังการผลิต448 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสาร ที่คาดว่าจะเริ่มทยอยลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยก่อสร้างได้ในช่วงปี 2570 เนื่องจากมีระยะเวลาการจ่ายไฟฟ้า (COD) ตั้งแต่ปี 2571 ไปจนถึงปี 2573
ข่าวที่เกี่ยวข้อง