In Brief
ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร โรงพยาบาลชุมชน หวังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน พุ่งเป้าการติดตั้งโซลาร์สูบน้ำเพื่อเกษตรกรในพื้นที่แห้งแล้ง และประปาหมู่บ้าน รวมถึงโซลาร์รูฟท็อปพื้นที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้าใช้
นายรัฐฉัตร ศิริพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569-2571 และให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทางหลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯ และการจัดสรรเงินตามแผนและกลุ่มงานต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ภายในวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2569 ได้จัดสรรวงเงิน 9,000 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2570 และปีงบประมาณ 2571 จัดสรรปีละ 3,000 ล้านบาท
สำหรับการจัดสรรวงเงินในปีงบประมาณ 2569 จะนำไปใช้เพื่อการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน 1,500 ล้านบาท และเพื่อให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามนโยบาย Quick Big Win ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร และโรงพยาบาลรัฐ ลดค่าสาธารณูปโภค วงเงิน 7,500 ล้านบาท
ประกอบด้วย 1.ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้หน่วยงานรัฐ และประชาชนในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ จำนวน 300 แห่ง ทั่วประเทศ
2.โซลาร์เซลล์ในโรงพยาบาลชุมชน (ระดับทุติยภูมิ) จำนวน 500 แห่งทั่วประเทศ
3.โซลาร์สูบนํ้าขนาดใหญ่ ขนาด 50-80 กิโลวัตต์ ในพื้นที่ประสบภัยแล้ง 450 แห่ง ทั่วประเทศ
4.สนับสนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาด 3-5 กิโลวัตต์ สำหรับระบบนํ้าประปาหมู่บ้าน จำนวนกว่า 2,000 แห่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าสาธารณูปโภค
5.สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่าสำหรับผู้ประกอบการ และประชาชนผ่านธนาคารต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือลดการใช้พลังงาน รวมถึงการติดตั้งโซลาร์เซลล์
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะดำเนินการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจหน้าที่ในการร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการด้านพลังงานต่อไป อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
“โครงการโซลาร์สูบนํ้า ถือเป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick Big Win) ในการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายติดตั้ง 1,200 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่ 7 แสนไร่ เป็นรูปแบบที่ภาครัฐเป็นผู้ลงทุน โดยใช้งบจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ติดตั้ง 50 ระบบ วงเงิน 536 ล้านบาท และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ติดตั้ง 1,150 ระบบ วงเงิน 11,960 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดค่าพลังงานได้ 1,500 บาทต่อไร่ต่อปี กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนกว่า 12,500 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 87.5 เมกะวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ได้ 0.06 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งโครงการโซลาร์สูบนํ้าตามเป้าหมายที่รัฐบาลระบุไว้ คาดว่าจะทยอยใช้งบดำเนินงาน 3 ปี ตามกรอบที่กพช.อนุมัติไว้”
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ฯ การใช้จ่ายเงินกองทุน แบ่งเป็น 6 กลุ่มงาน ประกอบด้วย 1. กลุ่มงานกฎหมาย นโยบาย หรืองานส่งเสริมเพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงพลังงาน 2. กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย และนวัตกรรม 3. กลุ่มงานสาธิต ริเริ่ม และนำร่อง 4. กลุ่มงานสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และข้อมูลข่าวสาร 5. กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร และ 6. กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง