เปิดเงื่อนไข ‘โซลาร์ฟาร์มชุมน 1,500 เมกฯ’ ขายไฟราคาถูก-แบ่งรายได้ให้ชุมชน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ในส่วนของโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ว่า เดิมทีโครงการดังกล่าวจะให้กับรายใหญ่เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ แต่ตอนนี้กระทรวงฯจะดึงออกมาเพื่อทำเป็นโซลาร์ฟาร์มชุนชน ซึ่งจะกระจายไปแต่ละชุมชนทั่วประเทศ

โดยโครงการดังกล่าวภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการจะดำเนินการร่วมกับชุมชนในการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มในพื้นที่ชุมชน ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะจำหน่ายให้กับชุมชนในราคาที่ถูกลง ส่วนที่เหลือก็อาจจะเป็นการขายเข้าสู่ระบบ เพราะฉะนั้นเอกชนก็จะมีผลประกอบการ และกำไรส่วนหนึ่ง ซึ่งจะต้องนำมาแบ่งให้กับชุมชน

ทั้งนี้ ภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุน หลังจากนั้นก็นำไฟฟ้าที่ได้มาขายให้กับประชาชนในราคาถูก และขายเข้าสู่ระบบ ซึ่งก็จะทำให้เกิดรายได้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายเหลือก็คืนให้กับชุมชน โดยเรื่องดังกล่าวน่าจะนำหลักการเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ภายในเดือน ต.ค. 68

“โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมขนจะได้ผลประโยชน์ 2 อย่าง ได้แก่ ประชาชนได้รับค่าไฟที่ถูกลง และส่วนแบ่งรายได้มาดูแลชุมชน โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งแต่ละชุมชุมจะได้ไม่เกิน 10 เมกกะวัตต์ เพราะฉะนั้นก็จะสามารถกระจายไปได้ในชุมชนที่มีความพร้อม“

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า เบื้องต้นโครงการดังกล่าวนั้น ในหนึ่งชุมชนน่าจะมีอย่างน้อยไม่เกิน 10 เมกกะวัตต์

ทั้งนี้ จะต้องพิจรณาความพร้อมของชุมชนด้วยว่า มีพื้นที่เพียงพอต่อการสร้างโซลาร์ฟาร์มหรือไม่ รวมถึงปริมาณการใช้ในชุมชนเป็นอย่างไร เนื่องจากสิ่งที่จะดำเนินการต้องการให้สะท้อนประชาชนที่อยู่ในชุมชนเป็นหลักก่อน

หลังจากนั้นผลในวงกว้างถึงจะมีการขยายไปสู่ประชาชนทั่วประเทศอีกทอดหนึ่ง

ส่วนการคัดเลือกชุมชนนั้น จะต้องมีการนำเกณฑ์เรื่องดังกล่าวไปพิจารณาในที่ประชุม กพช. อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ต้องรอให้ทางส่วนของนโยบายได้มีการเตรียมการก่อน

โดยหลังจากที่ รมว. พลังงานประกาศแนวทาง ส่วนที่เกี่ยวข้องก็จะต้องมีการดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในการพิจารณา

อย่างไรก็กีหากถามว่า หลักเกณฑ์จะมีการเปลี่ยนแปลงจากโซลาร์ประชาชนหรือไม่นั้น แน่นอนว่าต้องมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากแต่เดิมโซลาร์ภาคประชาชนจะเป็นลักษณะของการถือหุ้นร่วมกัน แบ่งเป็นประชาชนส่วนหนึ่ง และเอกชนอีกส่วนหนึ่ง

แต่ในรูปแบบปัจจุบันอาจจะไม่ใช่การถือหุ้นในลักษณะเดิม แต่จะใช้วิธีที่ทำให้ผลประโยชน์ที่ประชาชนได้รับอยู่ในรูปแบบของค่าไฟเลย จะไม่ได้จ่ายออกมาเป็นเงิน ซึ่งไม่รู้ว่าไปอยู่กับส่วนไหน

“เวลานี้เรื่องดังกล่าว คงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก คงต้องรอให้ทางส่วนของนโยบายมีแนวทางที่ชัดเจนก่อน"