In Brief
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้ พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 เพื่อใช้เป็นทุน หมุนเวียนและใช้จ่าย ช่วยเหลือหรืออุดหนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งด้านการลงทุนและดำเนินงานในการอนุรักษ์พลังงานของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ตลอดจนเป็นเงินช่วยเหลือหรือเงินอุดหนุนโครงการทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน การค้นคว้า วิจัย การศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการส่งเสริมและการอนุรักษ์พลังงานฯ
ในปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกองทุนฯ มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้จัดสรรงบไว้ที่ 2,750 ล้านบาท เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว แต่มีผู้ยื่นข้อเสนอมารวม 1,070 โครงการ คิดเป็นวงเงิน 13,488 ล้านบาท สูงกว่างบที่วางไว้ อาทิ โครงการคนละครึ่ง ในส่วนราชการ จำนวน 290 โครงการ วงเงิน 2,444 ล้านบาท
โครงการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า จำนวน 129 โครงการ วงเงิน 2,203 ล้านบาท การสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงงาน/อาคาร ฯลฯ รวม 348 โครงการ วงเงิน 3,873 ล้านบาท โครงการวิจัย 130 โครงการ วงเงิน 1,481 ล้านบาท โครงการสาธิต 112 โครงการ วงเงิน 2,785 ล้านบาท โครงการการพัฒนาบุคลากร และโครงการประชาสัมพันธ์ อื่น ๆ รวม 61 โครงการ วงเงิน 702 ล้านบาท
ปัจจุบันสถานะโครงการที่ยื่นเข้ามาขอสนับสนุนเงินกองทุนฯ อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา โดยสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) จะกลั่นกรองข้อเสนอและรวบรวมข้อมูลโครงการ นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็น ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป
คาดว่าจะเริ่มแจ้งผลและดำเนินโครงการได้ประมาณต้นเดือนมกราคม 2569 โดยจะให้ความสำคัญกับโครงการในพื้นที่ทุรกันดาร ประชาชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นหลัก ซึ่งในกลุ่มนี้มีข้อเสนอเข้ามาวงเงินรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท มีวงเงินที่สามารถสนับสนุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ขณะที่ปีงบประมาณ 2569 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จะเน้นที่การสนับสนุนนโยบาย Quick Big Win และรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตลอดจนเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ ๆ ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้วางกรอบงบประมาณไว้ที่ 9,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะนำมาใช้อุดหนุนการดำเนินโครงการโซลาร์สูบนํ้าเพื่อการเกษตรตามนโยบาย Quick Big Win ที่มีเป้าหมายการติดตั้ง 1,200 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่ 7 แสนไร่
แบ่งเป็นงบจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 1,150 ระบบ วงเงิน 11,960 ล้านบาท และอีก 50 ระบบ วงเงิน 536 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะมีส่วนช่วยลดค่าพลังงานให้กับเกษตรกรได้ 1,500 บาทต่อไรต่อปี สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 12,500 ล้านบาท และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 0.06 ล้านตันต่อปี จากการใช้พลังงานทดแทนรวมกำลังผลิตราว 87.5 เมกะวัตต์
นายรัฐฉัตร ศิริพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของกองทุนอนุรักษ์ฯ ช่วงปีงบประมาณ 2569-2571 ส.กทอ.เตรียมที่จะประกาศยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินกรอบกองทุนฯ ไว้ราว 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2569 จำนวน 9,000 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2570 จำนวน 3,000 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2571 จำนวน 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2569 ส.กทอ. ได้เตรียมวางแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยเฉพาะการตอบสนองนโยบาย Quick Big Win ได้มีการเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อมากำหนดหลักเกณฑ์แนวทางโครงการโซลาร์สูบนํ้าเพื่อการเกษตร นำไปสู่การออกประกาศรับข้อเสนอ และการเลือกหน่วยงานมาดำเนินโครงการในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 และแจ้งผลเริ่มดำเนินการในเดือนมกราคม 2569
“กองทุนฯ จะมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข รายละเอียด ซึ่งโครงการใดๆ ที่จะได้รับเงินสนับสนุนต้องสอดคล้องตามระเบียบ”
ทั้งนี้ มีรายงานว่าโครงการโซลาร์สูบนํ้าเพื่อการเกษตร จัดอยู่ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก หน่วยงานที่ได้รับสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอโครงการ ต้องเป็นหน่วยงานส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรือรัฐวิสาหกิจ และองค์กรเอกชนที่ไม่มุ่งแสวงหากำไร ซึ่งหากกลุ่มเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชน จะต้อง ยื่นใบสมัครผ่านหน่วยงานราชการหรือ อปท. ในพื้นที่ เพื่อรวบรวมและยื่นข้อเสนอโครงการต่อ ส.กทอ.
ขณะที่การอุดหนุนเงินโครงการ จะเป็นในลักษณะ “คนละครึ่ง” หรือผู้ขอรับทุนจะต้องร่วมจ่าย (Co-pay) ในโครงการครึ่งหนึ่งของงบโครงการ แต่หากเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือทุรกันดาร อาจจะได้รับการสนับสนุนงบทั้ง 100%
มีการตั้งข้อสังเกตว่า โครงการโซลาร์สูบนํ้าเพื่อการเกษตรตามนโยบาย Quick Big Win ทั้งตั้งเป้าหมายไว้ 1,200 ระบบ เป็นการสำรวจและประเมินพื้นที่ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) แต่ด้วยเงื่อนไข หลักเกณฑ์ของกองทุนฯอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด ที่อาจจะมีตัวแปรจาก การจัดหาที่ดินติดตั้งระบบ ปริมาณนํ้าทั้งปี และหน่วยงานที่จะรับระบบไปดูแล เป็นต้น อีกทั้งมองว่า การติดตั้งโซลาร์สูบนํ้าเพื่อการเกษตร 1,150 ระบบ จะทยอยดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบการจัดสรรงบประมาณ 3 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง