In Brief
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อโลกขยับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะไม่เพียงสร้างโอกาสให้กับธุรกิจพลังงานสะอาดหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น แต่อาจหมายถึง การเกิดขึ้นของงานใหม่กว่า 24 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่เตือนว่า การเดินหน้าสู่ความยั่งยืนจะพลิกโฉมตลาดแรงงานโลกครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า งานใหม่จำนวนมากจะเกิดจากการเปลี่ยนผ่านของภาคพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพอาคาร การจัดการของเสีย และเศรษฐกิจหมุนเวียน ขณะเดียวกัน “งานที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล” กำลังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง สัญญาณของการเปลี่ยนยุคที่ไม่มีวันย้อนกลับ
เสียงสะท้อนจากเวทีโลกนี้เริ่มชัดเจนขึ้นในประเทศไทย เมื่อมีการผลักดัน “พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือ “พ.ร.บ.โลกร้อน” ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2569 ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และกำหนดให้ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เเละคาดว่าจะตอบโจทย์ทั้งการจัดการและซื้อขายคาร์บอนเครดิต-การตรวจสอบและทวนสอบรายงานก๊าซเรือนกระจก
การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวกำลังสร้าง “คลื่นความต้องการแรงงานสายสิ่งแวดล้อม” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งในระดับผู้ปฏิบัติการ ผู้เชี่ยวชาญ และฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กร ซึ่งต้องปรับบทบาทจาก ดูแลคนไปสู่ขับเคลื่อนความยั่งยืนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในโลกยุคใหม่
ในขณะที่หลายประเทศเริ่มลงทุนใน “งานสีเขียว” เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ ภาคธุรกิจไทยเองก็เริ่มขยับเช่นกัน หนึ่งในบริษัทที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลง คือ บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ผู้นำด้านโซลูชันการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลครบวงจร ซึ่งมองว่า “แรงงานสายสิ่งแวดล้อม” จะกลายเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการมากยิ่งขึ้น
HR คือจุดตั้งต้นของความยั่งยืน
นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล โดยบริษัทและบริษัทในเครือได้พัฒนาบริการที่หลากหลายเพื่อครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการเกี่ยวกับ “คน” ทั้งในด้านการสรรหาพนักงาน (Recruitment) การจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing) การจัดทำเงินเดือน (Payroll) และการพัฒนาบุคคล (Training)
ธุรกิจ HR บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนอย่างไร แต่เรานิยามตัวเองว่าเป็นบริษัทที่ทำเรื่องคน ทีนี้ถ้าคนมีอาชีพที่ดี ก็สามารถเติบโตได้ในอาชีพของเขา มีงานที่ดีก็สามารถมีครอบครัวที่ดี มีสังคมที่ดีได้ การที่เรามองเรื่องความยั่งยืน คือถ้าคนเรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำ ก็อาจจะไปก่อเหตุ หรือทำให้สังคมไม่น่าอยู่ เราจึงเข้าไปเป็นตัวช่วยระหว่างคนที่อยากหางานกับนายจ้าง เพื่อให้มาเจอกัน แล้วทำในส่วนของการหางานให้เขามีอาชีพที่ดี เรามองว่ามันก็คือเรื่องความยั่งยืนแบบหนึ่งในแง่ของ PRTR ที่ทำ
PRTR ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยตั้งแต่ระดับนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เพื่อแนะแนวและเตรียมความพร้อมด้านอาชีพให้กับเยาวชน โดยช่วยให้นักศึกษารู้จักความถนัดของตนเอง เข้าใจความต้องการของตลาดแรงงาน และพัฒนา “สกิล” ที่จำเป็นต่อการทำงานจริง
เราเข้าไปร่วมทำงานกับมหาวิทยาลัย เดี๋ยวนี้ค่อนข้างเปิดกว้าง ไม่ใช่แค่สอนในห้องเรียนอย่างเดียว แต่มหาวิทยาลัยอยากให้น้อง ๆ ได้เจอกับผู้ประกอบการ ได้รู้ว่าความคาดหวังเป็นอย่างไร เราเองก็ทำโปรเจกต์ร่วมกัน ให้น้องได้ศึกษาและนำสิ่งที่เรียนรู้มาทำเป็นโปรเจกต์ต่อ แล้วกลับมานำเสนอให้เราดู
ช่วยองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน พัฒนา Key Man
PRTR มองเรื่องความยั่งยืนในสองด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Green, Net Zero) และด้านคน (People) ที่เป็นพื้นฐานให้บริษัทสามารถเติบโตได้ในระยะยาว โดยอธิบายว่า บริษัทเข้ามาช่วยองค์กรต่าง ๆ ในฝั่งที่ทำให้ธุรกิจสามารถยั่งยืนแบบเติบโตไปได้ในอนาคต ไม่ใช่เพียงทำกำไรได้ไม่กี่ปีแล้วไม่มีคนมาสานต่อ หรือธุรกิจไปต่อไม่ได้จนต้องล้มหายตายจากไป โดยจะช่วยตั้งแต่การ Identify หาว่า “ใครคือคีย์แมนในตำแหน่งสำคัญ” ที่จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงเข้าไปช่วยพัฒนาและสนับสนุนผู้บริหารในตำแหน่งหลัก เพื่อให้บริษัทยืนหยัดได้ในระยะยาว
เราเข้ามาช่วยลูกค้าตั้งแต่การหาว่าใครคือคีย์แมน ตำแหน่งไหนสำคัญที่จะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน แล้วเข้าไปพัฒนาให้กับผู้บริหารและตำแหน่งสำคัญ เพื่อให้บริษัทยั่งยืนได้ในอนาคต
“The Blacksmith” พันธมิตรยกระดับฝีมือแรงงาน
นอกจากนี้ PRTR ยังทำงานร่วมกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผ่านบริษัทในเครือ “เดอะแบล็กสมิธ (The Blacksmith)” ซึ่งให้บริการด้านการฝึกอบรม โดยเปิดคอร์สเรียนฟรีให้กับประชาชนทั่วไป เช่น คอร์สภาษาอังกฤษ รวมถึงหลักสูตร “Soft Skill” และ “Hard Skill” ที่ครอบคลุมเกือบทุกสายอาชีพ ทั้งบัญชี โลจิสติกส์ วิศวกรรม และเทคนิคต่าง ๆ
ตอนนี้ลูกค้าเริ่มอยากได้คอร์สเกี่ยวกับเรื่อง Sustainable มากขึ้น เพื่อให้คนรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้ดีกับโลกของเรา ก็เริ่มมีคอร์สแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ลูกค้าบอกว่า เราจะทำงานโดยคิดถึงแต่ธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูเรื่อง Sustainability ด้วย ต้องดูเรื่อง Green ด้วย แล้วเขาก็อยากปลูกฝังให้กับคนในองค์กรที่จะมีความรู้เรื่องนี้
Next Move แพลตฟอร์มหางานสู่ตลาด Green Job
นางสาวริศรากล่าวว่า PRTR ยังมีแพลตฟอร์มหางาน “NextMove” ซึ่งในอนาคตอาจสามารถพัฒนาให้กลายเป็น “Green Job Platform” ได้ แม้ปัจจุบันความต้องการแรงงานด้านสิ่งแวดล้อมจะยังไม่สูงมาก แต่เชื่อว่าทิศทางของตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียวที่ทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าไป
ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะว่าความต้องการของคนที่อยากได้อาจจะยังไม่ได้เยอะมาก จะค่อนข้างเฉพาะทาง แต่ถ้าลูกค้าอยากได้แรงงานสายนี้ ก็มักจะใช้บริการ Recruitment Service ของเรา ซึ่งเราจะเข้าไปช่วยค้นหาคนให้ตรงกับความต้องการ
Paperless เทคโนโลยีลดคาร์บอนในองค์กร
ภายในองค์กร PRTR ยังนำระบบดิจิทัลเข้ามาลดการใช้กระดาษอย่างจริงจัง พนักงานกว่า 19,000 คนทั่วประเทศใช้ระบบเช็กอินออนไลน์ การจัดเก็บข้อมูล Payroll แบบ Paperless และระบบคำนวณค่าคอมมิชชันอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นอีกมิติหนึ่งของการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
สุดท้าย ซีอีโอหญิงของ PRTR ย้ำว่า บริษัทมีจุดยืนชัดเจนต่อกระแสโลกสีเขียว คือไม่ขวางทางแต่ซัพพอร์ตให้เกิดขึ้นได้ทั้งในมุมของลูกค้าและในองค์กรเอง
โลกไปทางนั้นแล้ว เราจะขวางไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือซัพพอร์ตให้เกิดขึ้น รวมถึงซัพพอร์ตลูกค้าด้วย เราเป็นเหมือนตัวกลาง ที่ช่วยให้ลูกค้าเดินไปได้อย่างที่เขาตั้งใจ และซัพพอร์ตในด้านที่ทำให้คนในองค์กรมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง