net-zero

เปิด 5 มาตราร้อน ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ ลุ้นต่อวันนี้ถก กองทุนอากาศสะอาด

In Brief

  • สภาผู้แทนราษฎรเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด โดยมีการอภิปรายในหลายมาตราที่เป็นประเด็นสำคัญ
  • ประเด็นร้อนคือการเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการอากาศสะอาดระดับจังหวัด และการให้จังหวัดสามารถประกาศ "เขตมลพิษต่ำ" (Low Emission Zone) ได้เอง
  • มีการถกเถียงถึงผลกระทบต่อภาคเกษตรกรจากมาตรการ "สินค้าเกษตรปลอดการเผา" และภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบตรวจสอบมลพิษ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (9 ตุลาคม 2568) เปิดประชุมเวลา 09.00 น. โดยหลังจากให้สมาชิกอภิปรายปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว มีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ “บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …” ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณามาตราต่อเนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่มาตรา 37/6 โดยพิจารณาจนถึงมาตรา 69/13 ก่อนปิดประชุมในเวลา 20.25 น. โดยมีการถกเถียงกันในหลายมาตราที่น่าสนใจ

อำนาจคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด

นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายท้วงติงการบัญญัติถ้อยคำใน มาตรา 37/15 ของร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการเพิ่มขึ้น โดยระบุให้ คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดพิจารณา ในกรณีโครงการที่ต้องได้รับอนุมัติหรืออนุญาตตามกฎหมายอื่น หรือจัดทำรายงาน EIA มองว่าอาจทำให้คณะกรรมการฯ มีอำนาจเหนือหน่วยงานอื่น เพราะกำหนดให้ต้องรอผลพิจารณาก่อนอนุมัติหรืออนุญาต ซึ่งทุกกระทรวงมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาให้รอบคอบ

นายบัณฑูร เศรษฐศิโรจน์ กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า มาตราดังกล่าวไม่ได้มีผลยกเลิกกฎหมายอื่น แต่เพิ่มเติมเพียงข้อกำหนดให้นำข้อมูลด้านการระบายสารมลพิษทางอากาศจากคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด มาใช้ประกอบการอนุมัติของหน่วยงานที่มีอำนาจ เพื่อให้กระบวนการพิจารณาเกิดความครบถ้วนและเชื่อมโยงกับเป้าหมายการควบคุมมลพิษในพื้นที่

เปิดทางจังหวัดประกาศเขตมลพิษต่ำ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ มาตรา 45/3 ที่ให้อำนาจจังหวัดกำหนด พื้นที่ควบคุมการระบายมลพิษต่ำ หรือ “Low Emission Zone (LEZ)” เพื่อจำกัดการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ปล่อยควันดำจำนวนมาก

นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน เสนอให้ตัดถ้อยคำตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดออกจากร่าง เพื่อให้จังหวัดมีสิทธิกำหนดเขต LEZ ด้วยตนเองโดยไม่ต้องรอประกาศจากส่วนกลาง โดยยกตัวอย่างกรุงเทพมหานครที่เคยออกประกาศเองได้โดยไม่ต้องรอรัฐบาลกลาง ที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอและมีมติรับเพิ่มมาตราใหม่

มาตรา 50/5  กำหนดสินค้าเกษตรปลอดการเผา

นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความกังวลว่าการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดการเผา อาจเป็นภาระต่อผู้ประกอบการเเละเกษตรกร และตั้งคำถามว่ากฎหมายนี้คำนึงถึงสภาพความจริงของประเทศหรือไม่
กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า ไม่ได้ห้ามการเผาโดยเด็ดขาด แต่อนุญาตให้ทำได้ภายใต้เงื่อนไข เช่น การควบคุมศัตรูพืช หรือช่วงเปลี่ยนผ่านการผลิต

มาตรา 50/8 ระบบตรวจสอบมลพิษในภาคเกษตร

นายฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสงสัยถึงภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบตรวจสอบสารมลพิษทางอากาศ

รศ.วิษณุ อรรถวานิช กรรมาธิการฯ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ระบบการตรวจสอบย้อนกลับยังไม่มีรายละเอียดเพียงพอในตัวกฎหมาย แต่จะกำหนดเพิ่มเติมในระเบียบหรือประกาศในขั้นตอนต่อไป โดยยืนยันว่าหลักการดังกล่าวเป็นแนวปฏิบัติที่หลายประเทศใช้ 

รศ.วิษณุระบุว่า ปัจจุบันหน่วยงานของไทย เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร มีข้อมูลพิกัดรายแปลง และระบบดาวเทียมที่สามารถตรวจจับการเผาและจุดความร้อนได้ หากมีการเชื่อมโยงข้อมูลต่อถึงผู้ประกอบการ ก็จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าแปลงใดของเกษตรกรมีการเผาหรือไม่

มาตรา 69/13 ปิดท้ายการพิจารณารอบแรก

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในมาตรานี้ก่อนปิดการประชุม โดยสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยเสนอให้เดินหน้าพิจารณามาตราต่อเนื่อง เพื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้ผ่านความเห็นชอบโดยเร็ว