net-zero

สีจิ้น ผิง ประกาศเป้าหมาย NDC ปี 2035 จีนเร่งรับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

จีนประกาศเป้าหมาย NDC ปี 2035 ระหว่างการประชุม UN ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 7%-10% จากระดับสูงสุด พร้อมเพิ่มกำลังผลิตพลังงานลมและแสงอาทิตย์ 6 เท่า และดันสัดส่วนพลังงานไม่ใช่ฟอสซิลเกิน 30%

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศผ่านวิดีโอต่อการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศระดับสูงของสหประชาชาติ (UN) ที่จัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันพุธ (24 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่าปี 2025 เป็นวาระครบรอบ 10 ปีของความตกลงปารีส (Paris Agreement) เป็นปีสำคัญที่นานาประเทศต้องเสนอเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDCs) ขณะที่การกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศโลกกำลังก้าวสู่ช่วงสำคัญ  โดได้ประกาศเป้าหมายฯ ใหม่ของจีนที่จะดำเนินการภายในปี 2035 ได้แก่

1. ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิทั่วทั้งเศรษฐกิจลง 7-10 % จากระดับสูงสุด และจะพยายามทำให้ดียิ่งขึ้น

2. เพิ่มสัดส่วนพลังงานที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิลให้เกิน 30 %ของการใช้พลังงานทั้งหมด

3. ขยายกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ให้มากกว่า 6 เท่าของระดับปี 2020 โดยตั้งเป้าให้ถึง 3,600 กิกะวัตต์

4. เพิ่มปริมาณกักเก็บคาร์บอนในป่าไม้ให้เกิน 2.4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร

5. ทำให้ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) กลายเป็นกระแสหลักในตลาดการจำหน่ายยานยนต์ใหม่

6. ขยายตลาดซื้อขายสิทธิการปล่อยคาร์บอนระดับชาติให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

7. สร้างสังคมที่สามารถปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศได้โดยพื้นฐาน

สีจิ้นผิงยังเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วเร่งดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ พร้อมกล่าวพาดพิงโดยไม่เอ่ยชื่อถึงสหรัฐฯ ที่เคลื่อนไปในทิศทางตรงข้ามกับเป้าหมายความตกลงปารีส

การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสีเขียวและคาร์บอนต่ำคือแนวโน้มของยุคสมัย แม้บางประเทศจะสวนกระแสดังกล่าว แต่ประชาคมโลกควรเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง รักษาความเชื่อมั่น การลงมือทำ และความพยายามอย่างไม่ลดละ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ใช้เวทีสมัชชาสหประชาชาติกล่าวโจมตีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็นเรื่องหลอกลวง พร้อมเรียกนักวิทยาศาสตร์ว่าโง่เขลา และวิจารณ์สหภาพยุโรปและจีนที่หันมาใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด

ทรัมป์ยังสั่งถอนตัวสหรัฐฯ ออกจากความตกลงปารีสเป็นครั้งที่สอง ความตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ผ่านแผนสภาพภูมิอากาศของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และปัจจุบันเป็นผู้ปล่อยมากที่สุดอันดับสองรองจากจีน

ผู้สังเกตการณ์หลายฝ่ายหวังว่าจีนจะใช้โอกาสที่สหรัฐฯ ถอยห่างจากเวทีนี้ ประกาศเป้าหมายลดการปล่อยอย่างน้อย 30% เพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายเดิมในการทำให้การปล่อยสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060

โลกยังขาดความทะเยอทะยาน

แม้หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการให้คำมั่นด้านสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่ก่อนการประชุมสุดยอด COP30 ที่บราซิลในปีนี้ แต่การประกาศเมื่อวันพุธยังไม่สร้างความประทับใจ

กลุ่มสิ่งแวดล้อมและผู้สังเกตการณ์ระบุว่า คำมั่นของเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศยังต่ำกว่าที่ควรเป็นเมื่อเทียบกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประธานาธิบดีลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เตือนว่า คำมั่นที่จะถูกประกาศก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเป็นตัวชี้ว่าโลกจะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็น

บราซิลให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซลง 59%-67% ภายในปี 2035 และเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า