การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจต่างเผชิญกับความท้าทายทั้งความเสี่ยงทางกายภาพ (physical risks) เช่น ไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้ง และอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งล้วนสร้างผลกระทบเชิงลบต่อทรัพย์สิน รวมถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน (transition risks) ที่เกิดจากนโยบายและกฎระเบียบที่มุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ วิวัฒนาการของเทคโนโลยี และความคาดหวังของผู้ลงทุนและผู้บริโภคในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ผลสำรวจของ Deloitte ต่อผู้บริหารระดับสูงกว่า 2,000 ราย จาก 27 ประเทศ พบว่า ร้อยละ 70 เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจ โดยกว่าครึ่งหนึ่งมองว่ามาจากกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับและความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ดี ร้อยละ 92 เห็นว่าธุรกิจยังเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจกได้ และร้อยละ 85 ให้ความสำคัญและลงทุนด้านความยั่งยืนมากขึ้น สะท้อนว่าหากมีการปรับตัวและจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ธุรกิจยังสร้างโอกาสใหม่และคุณค่าระยะยาวได้
ระดับสากล องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ออก G20/OECD Principles of Corporate Governance 2023 เน้นความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อผู้มีส่วนได้เสีย (stakeholders) ควบคู่กับผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะการตัดสินใจที่กระทบต่อความอยู่รอดและความยั่งยืนของธุรกิจ จึงควรผนวกประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศเข้ากับกลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน และการเปิดเผยข้อมูล
หลักการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิด Climate Governance ที่สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) เสนอเป็น Guiding Principles 8 ข้อสำหรับคณะกรรมการ ได้แก่ การรับผิดชอบต่อผลกระทบสภาพภูมิอากาศ, การมีองค์ความรู้ที่หลากหลาย, การกำหนดโครงสร้างบอร์ดและคณะกรรมการชุดย่อย, การประเมินความเสี่ยงและโอกาสอย่างรอบด้าน, การบูรณาการเข้าสู่กลยุทธ์และวัฒนธรรมองค์กร, การสร้างแรงจูงใจผ่านระบบค่าตอบแทน, การเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องตามข้อกำหนด และการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างสม่ำเสมอ
ก.ล.ต. ได้นำแนวทางนี้มาสอดแทรกใน หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2560 (CG Code) ซึ่งมุ่งลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม เสริมความสามารถในการปรับตัว แข่งขันได้ และสร้างผลประกอบการที่ดีในระยะยาว โดยครอบคลุมการกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย, การกำหนดกลยุทธ์และการจัดสรรทรัพยากร, และการบริหารความเสี่ยงพร้อมการรายงานผล
ปัจจุบัน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างยกระดับการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนในรายงานประจำปีของบริษัทจดทะเบียน ให้สอดรับมาตรฐานสากล ได้แก่ IFRS S1 General Sustainability Disclosure และ IFRS S2 Climate-Related Disclosure ของ International Sustainability Standards Board (ISSB) โดยระยะแรกจะเน้นด้านสภาพภูมิอากาศตาม 4 เสาหลัก (pillars) คือ การกำกับดูแล, กลยุทธ์, การบริหารความเสี่ยง และตัวชี้วัดและเป้าหมาย
ในขั้นต่อไป ก.ล.ต. จะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร พัฒนาเครื่องมือสนับสนุนคณะกรรมการและผู้บริหารให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อธุรกิจ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถจัดการความเสี่ยงและโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมไทยในยุควิกฤตสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลอ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง