ท่ามกลางแรงกดดันจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ บริษัทชั้นนำทั่วโลกต้องรับมือกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ภาษีนำเข้า และการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาด
ล่าสุด TIME จับมือกับ Statista จัดอันดับ 500 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยใช้ข้อมูลสาธารณะในปีปฏิทิน 2023 เพื่อประเมินความก้าวหน้าขององค์กรต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน
บริษัท True Corporation จากประเทศไทยติดอันดับที่ 191 ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ด้วยคะแนน 67.58 ที่อยู่ใน 200 อันดับแรก สะท้อนบทบาทของภาคเอกชนไทยในการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจสีเขียวในเวทีโลก
นอกจากนี้ยังพบ Home Product Center อันดับ 252 คะเเนน 65.03 ขณะที่ scg ติดอันดับ 419 ด้วยคะเเนน 59.27
บริษัทที่ติดอันดับสูงหลายแห่งมักเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัล เช่น ธนาคาร การสื่อสาร และที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือไม่ก็เป็นผู้จัดหาพลังงานสะอาด หนึ่งในนั้นคือ Schneider Electric จากฝรั่งเศส ซึ่งครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีจัดการพลังงานและช่วยเหลือองค์กรอื่นในการลดการปล่อยคาร์บอน เช่น บริษัท Sanofi (อันดับ 10) และ Novartis (อันดับ 11) ผ่านโครงการจัดซื้อพลังงานหมุนเวียน
Sanofi และ Novartis ยังปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งลดของเสีย ทดแทนวัสดุสิ้นเปลือง และใช้ระบบบำบัดน้ำเสียขั้นสูง ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ แม้เผชิญแรงกระแทกจากภาษีนำเข้า ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Ford (อันดับ 74) และ Volvo Cars (อันดับ 91) ยังคงเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมปรับเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าให้สอดรับความเป็นจริงในตลาดโลก
การจัดอันดับครั้งนี้สะท้อนว่า แม้โลกจะเผชิญภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่หลายองค์กรยังคงรักษาคำมั่นด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยการลงทุนในพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสีเขียว และรูปแบบธุรกิจที่ลดผลกระทบต่อโลก ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ TIME และ Statista ใช้ประเมินผลงานของบริษัทเหล่านี้
ข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง