BPP ลุยผสมชีวมวล 50% โรงไฟฟ้าถ่านหินในจีน ช่วยลด CO2 สร้างรายได้เพิ่ม
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ตั้งเป้าหมายลดการก๊าซเรือนกระจกลง 20% และ ในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( Net Zero) ในปี 2593
พร้อมมุ่งเดินหน้าเติบโต เพื่อรองรับความต้องการพลังงานทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ภายในปี 2593 โดยอาศัยฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิกรวม 8 ประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะจากแนวโน้มการเติบโตของศูนย์ข้อมูล (Data Center) และเทคโนโลยี AI เพื่อรองรับการเติบโต ในระยะยาว
ทั้งนี้ BPP มุ่งปรับพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับแนวทาง “Beyond Quality Megawatts” โดยไม่จำกัดอยู่เพียงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า แต่ครอบคลุมถึงการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงาน พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตอย่างมั่นคงกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับกลยุทธ์ปี 2568-2573 BPP จะเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ การส่งมอบไฟฟ้าพื้นฐานที่มีเสถียรภาพ พร้อมทั้งการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง จากการเติบโตในกลุ่มโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โดยมีแผนเพิ่มกำลังผลิตกว่า 1,500 เมกะวัตต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา และตลาดสำคัญอื่น ๆ ควบคู่กับการขยายกำลังผลิตในพลังงานที่สะอาดขึ้น
ตอกยํ้าความมุ่งมั่นต่อการลดคาร์บอนและมุ่งสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยการนำโซลูชันดิจิทัลมาใช้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ และการดำเนินงาน และเดินหน้าผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน อาทิ การผสานเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และแสวงหาโอกาสในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition)
ภายในปี 2573 BPP ตั้งเป้าหมาย EBITDA มากกว่า 1.8 เท่าของ EBITDA ปกติเฉลี่ยปี 2565-2566 อยู่ที่ 8,155 ล้านบาท โดยภายในปี 2573 มากกว่า 65% ของ EBITDA จะมาจากสินทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากปี 2567 อยู่ที่ 27%
รวมทั้ง การจัดสรรงบประมาณลงทุนในปี 2568-2573 อยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (GFP) 60 % และลงทุนใน Renewable+ 40% เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ขณะที่งบลงทุนรยะสั้นตั้งไว้ที่ราว 200-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโต ด้วยจุดแข็งจากการกระจายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่สมดุล โดยยังคงรักษาความมั่นคงจากสินทรัพย์เดิม ขณะเดียวกันได้เร่งการลงทุนในพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
หนึ่งในการขับเคลื่อนดังกล่าว จะเป็นการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่งในจีน ปรับมาให้เป็นโรงไฟฟ้าที่สะอาดมากยิ่งขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีความเข้มงวดในนโยบายสิ่งแวดล้อมและ การควบคุมมลสาร โดยจำกัดการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
และเมื่อปีที่ผ่านมา จีนได้จัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการสร้าง “ระบบไฟฟ้าใหม่” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ รวมถึงการเพิ่มการจ่ายไฟฟ้าสะอาดผ่านโครงข่ายไฟฟ้าและปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าถ่านหิน อีกทั้ง ยังเป็นการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่
จากการดำเนินงานที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมเจิ้งติ้ง (Zhengding) มีกำลังผลิตไฟฟ้า 73 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอนํ้า 370 ตันต่อชั่วโมง รวมเป็นกำลังผลิตติดตั้ง 139 เมกะวัตต์เทียบเท่า สามารถนำเชื้อเพลิงชีวมวลมาเผาไหม้ร่วมกับเชื้อเพลิงถ่านหินหิน (Biomass Co-firing) ในสัดส่วน 10 % เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จ และช่วยสร้างรายได้จากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CEAs) ได้เพิ่มขึ้น
จากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนได้จากการดำเนินงานในภาพรวมปี 2567 สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการขายคาร์บอนเครดิตที่ได้จากการลดการปล่อยคาร์บอนที่ดีกว่าที่กำหนด เป็นจำนวน 28 ล้านหยวน และไตรมาสแรกปี 2568 อีก 11 ล้านหยวนซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถในการสร้าง มูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่มีอยู่
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมโจวผิง (Zouping) ตั้งอยู่ในเขตโจวผิง เมืองบินโจว มณฑลซานตง ที่ผลิตทั้งไฟฟ้าและไอนํ้า ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิตไฟฟ้า 125 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอนํ้า 600 ตันต่อชั่วโมง รวมเป็นกำลังผลิตติดตั้ง 233 เมกะวัตต์เทียบเท่า อยู่ระหว่างขั้นตอนทดสอบระบบก่อนเปิดดำเนินการ
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมหลวนหนาน (Luannan) ตั้งอยู่ในเขตหลวนหนาน เมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย ผลิตไฟฟ้าและไอนํ้า โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังผลิตไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอนํ้า 538 ตันต่อชั่วโมง รวมเป็นกำลังผลิตติดตั้ง 246 เมกะวัตต์เทียบเท่า อยู่ในขั้นตอนการประมูลการดำเนินงาน
“การนำชีวมวลมาใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงหลักนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดการปล่อย CO2 อย่างมีประสิทธิภาพของ BPP จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon Emission Allowances: CEAs) เพิ่มขึ้น โดยในปี 2568 ได้ตั้งเป้าหมายในการขายคาร์บอนเครดิตไว้ประมาณ 290,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า”
ในระยะยาวบริษัท มีแผนที่จะ เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิง ชีวมวลเผาไหม้ร่วมถ่านหินในสัดส่วนเพิ่มเป็น 50% ของการใช้ถ่านหินในปัจจุบัน เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง