ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ “สมุทรสาคร-หนองแขม-สระบุรี-สุโขทัย” วิกฤตหนัก

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ทั่วประเทศไทย ประจำวันที่ 21 มกราคม 2568 ณ เวลา 09:00 น. จากรายงาน "การตรวจวัดคุณภาพอากาศ" ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ทั่วประเทศมีค่าอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีรายละเอียดแต่ละภูมิภาคดังนี้

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับในพื้นที่:

1. เขตหนองแขม (ริมถนนมาเจริญ) - 93.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. เขตภาษีเจริญ - 75.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. เขตทวีวัฒนา - 78.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. เขตตลิ่งชัน - 73.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. เขตสายไหม - 77.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
    

สถานการณ์โดยรวมในกรุงเทพฯ พบว่าฝั่งตะวันตกของเมืองมีค่าฝุ่นละอองสูงกว่าฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะในเขตชั้นนอกที่ติดต่อกับจังหวัดปริมณฑล ส่วนพื้นที่ชั้นในเช่น เขตปทุมวัน บางรัก และสาทร มีค่า PM2.5 ต่ำกว่าแต่ยังเกินมาตรฐาน

ส่วนปริมณฑลพบว่าจังหวัดสมุทรสาครมีสถานการณ์น่าเป็นห่วงที่สุด โดยวัดค่าได้สูงถึง 106.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่อำเภอเมือง

1. สมุทรสาคร (อ.เมือง) - 106.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. นนทบุรี (อ.ปากเกร็ด) - 80.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. ปทุมธานี (อ.คลองหลวง) - 78.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. สมุทรปราการ (อ.เมือง) - 70.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. นครปฐม (อ.เมือง) - 67.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ภาคกลาง

ภาคกลางมีสถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่อุตสาหกรรมและเขตชุมชนเมือง จังหวัดสระบุรียังคงเป็นพื้นที่วิกฤตเนื่องจากกิจกรรมอุตสาหกรรมและการขนส่ง ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลางส่วนใหญ่มีค่า PM2.5 เกินมาตรฐานแทบทั้งสิ้น

ภาคกลาง: สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับ:

1. สระบุรี (ต.หน้าพระลาน) - 95.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. เพชรบุรี (อ.เมือง) - 80.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. สิงห์บุรี (อ.เมือง) - 71.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. อยุธยา (อ.นครหลวง) - 72.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. ราชบุรี (อ.เมือง) - 71.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ภาคเหนือ

ภาคเหนือมีสถานการณ์แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยจังหวัดในภาคเหนือตอนล่างมีค่าฝุ่นละอองสูงกว่าภาคเหนือตอนบน พื้นที่สูงและแอ่งเขามีแนวโน้มสะสมมลพิษมากกว่าพื้นที่โล่ง แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดในภาคเหนือ

ภาคเหนือ: สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับ:

1. สุโขทัย (อ.เมือง, ต.ธานี) 83.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. พิษณุโลก (อ.เมือง, ต.ในเมือง) 67.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. อุตรดิตถ์ (อ.เมือง, ต.ท่าอิฐ) 55.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. แพร่ (อ.เมือง, ต.นาจักร) 47.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. เพชรบูรณ์ (อ.เมือง, ต.ในเมือง) 62.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับ:

1. เลย (อ.เมือง) - 64.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. ขอนแก่น (อ.เมือง) - 54.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. อุดรธานี (อ.เมือง) - 45.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. นครราชสีมา (อ.เมือง) - 44.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. อุบลราชธานี (อ.เมือง) - 42.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ภาคตะวันออก:

สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับ:

1. สระแก้ว (อ.อรัญประเทศ) - 76.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. ระยอง (อ.เมือง) - 69.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. ชลบุรี (อ.ศรีราชา) - 51.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. ฉะเชิงเทรา (อ.แปลงยาว) - 54.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. ปราจีนบุรี (อ.เมือง) - 47.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ภาคใต้:

สถานการณ์ PM2.5 สูงสุด 5 อันดับ:

1. ชุมพร (อ.เมือง) - 60.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

2. สุราษฎร์ธานี (อ.เมือง) - 16.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

3. นครศรีธรรมราช (อ.เมือง) - 17.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

4. ตรัง (อ.เมือง) - 15.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

5. สงขลา (อ.หาดใหญ่) - 16.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

มาตรการและคำแนะนำสำหรับประชาชน:

1. กลุ่มเสี่ยง:

• เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม
• ควรสวมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร

2. ประชาชนทั่วไป:

• ลดกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องออกแรงมาก
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง
• สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
• ทำความสะอาดร่างกายหลังสัมผัสฝุ่นละออง

3. การดูแลที่พักอาศัย:

• ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด
• ทำความสะอาดบ้านด้วยการเช็ดถูแทนการกวาด
• ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องที่ใช้เวลาอยู่นาน
• ดูแลต้นไม้ในบ้านให้สดชื่น เพื่อช่วยกรองฝุ่น

4. การเดินทาง:

• วางแผนการเดินทางให้รัดกุม หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น
• หมั่นตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองอากาศในรถยนต์
• ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถแทนการเปิดรับอากาศจากภายนอก
• พิจารณาใช้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน

5.    การติดตามข้อมูล:

• ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศได้ที่:
  • เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ: www.pcd.go.th
  • Air4Thai Application
  • สายด่วนกรมควบคุมมลพิษ 1646

ที่มา : Air4Thai กรมควบคุมมลพิษ