‘ซินเจนทา’ หนุนเกษตรกรใช้นวัตกรรมชีวภาพ ยกระดับอ้อยไทยสู่เวทีโลก

24 ก.ย. 2568 | 11:24 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ย. 2568 | 11:37 น.

อุตสาหกรรมอ้อย–น้ำตาลไทยเผชิญโจทย์ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ต้นทุนสูง และสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง‘ซินเจนทา’ สบช่องนำเสนอนวัตกรรมชีวภาพและการจัดการไร่อ้อยครบวงจร หนุนเกษตรกรเพิ่มผลผลิต–คุณภาพแข่งขันได้ในตลาดโลก

KEY

POINTS

  • ซินเจนทาผลักดันการใช้นวัตกรรมชีวภาพเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตอ้อยไทยต่อไร่ต่ำ ดินเสื่อมโทรม และความท้าทายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
  • นำเสนอผลิตภัณฑ์เด่นอย่างสารกระตุ้นชีวภาพ “ควอนติส” ที่ช่วยให้อ้อยทนต่อความร้อนและความแล้ง และสารอารักขาพืช “คาลารีส” เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและคุณภาพผลผลิต
  • มุ่งยกระดับการปลูกอ้อยไทยสู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ตลาดโลกด้านอาหารปลอดภัย พร้อมสนับสนุนเกษตรกรให้มีความรู้เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสในการแข่งขันระดับสากล

อ้อย ยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ทั้งในฐานะวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมน้ำตาลและการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมปลายน้ำหลากหลายด้าน เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ยา พลังงาน ตลอดจนอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น การเกษตร บริการทางการเกษตร และการผลิตปุ๋ย การปลูกอ้อยจึงมีบทบาทสำคัญต่อรายได้และเศรษฐกิจประเทศ เนื่องด้วยเกษตรกรจำนวนมากปลูกอ้อยเป็นรายได้หลัก

ทั้งนี้แม้ไทยยังครองอันดับ 2 ของโลกด้านการส่งออกน้ำตาลรองจากบราซิล แต่เมื่อพิจารณาผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ยังต่ำกว่าคู่แข่ง เนื่องจากต้องเผชิญปัญหาดินเสื่อม โรค แมลง ต้นทุนสูง แรงงานขาดแคลน และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันกระแสผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับ “อาหารปลอดภัยและการผลิตยั่งยืน”

จึงเป็นโอกาสให้เกษตรกรไทยยกระดับการผลิตอ้อยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะสารกระตุ้นทางชีวภาพและการจัดการไร่อ้อยครบวงจร พร้อมเสริมทักษะเกษตรกรและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำตาล สร้างโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก

‘ซินเจนทา’ หนุนเกษตรกรใช้นวัตกรรมชีวภาพ ยกระดับอ้อยไทยสู่เวทีโลก

หนึ่งในแนวทางสำคัญคือการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพและธาตุอาหารเสริมเพื่อฟื้นฟูสุขภาพดิน เสริมความแข็งแรงของต้นอ้อย และเพิ่มคุณภาพผลผลิต รวมถึงการปรับใช้การเกษตรแบบฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ลดการใช้น้ำและปัจจัยการผลิต ป้องกันการเสื่อมโทรมของดิน และช่วยให้พืชปรับตัวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

ซินเจนทา ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการเกษตร เสนอโซลูชันสำหรับอ้อยตั้งแต่ระยะเริ่มปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว เช่น ผลิตภัณฑ์สารกระตุ้นทางชีวภาพ “ควอนติส” (Quantis) จากการหมักอ้อยและยีสต์ ช่วยให้พืชทนต่อความร้อนและแล้ง รักษาผลผลิต พร้อมธาตุอาหารที่เสริมการเจริญเติบโตสมบูรณ์ และสารอารักขาพืช “คาลารีส” (Calaris) ควบคุมวัชพืชทั้งใบแคบและใบกว้าง ลดการแย่งอาหารอ้อย

พิษณุ อภิราชกมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จํากัด

นายพิษณุ อภิราชกมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จํากัด กล่าวว่า การปลูกอ้อยในปัจจุบันไม่ใช่เพียงการผลิตเชิงปริมาณ แต่ต้องตอบโจทย์ความยั่งยืนด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงการปลูก ทั้งสารกระตุ้นทางชีวภาพที่สร้างต้นอ้อยแข็งแรงและผลิตภัณฑ์ที่ฟื้นฟูดิน การใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้องช่วยเพิ่มผลผลิตและรักษาคุณภาพอ้อยในระยะยาว พร้อมเสริมทักษะและให้ความรู้เกษตรกรผ่านการสาธิต อบรม และติดตามผล

‘ซินเจนทา’ หนุนเกษตรกรใช้นวัตกรรมชีวภาพ ยกระดับอ้อยไทยสู่เวทีโลก

ในอีก 3–5 ปีข้างหน้า บทบาทของผลิตภัณฑ์สารกระตุ้นทางชีวภาพจะยิ่งสำคัญต่อการปลูกอ้อยไทย ซินเจนทาพร้อมเป็นพันธมิตรเดินเคียงข้างเกษตรกรทุกฤดูการปลูก เพื่อให้อ้อยไม่ใช่เพียงผลผลิตทางการเกษตร แต่เป็นรากฐานที่มั่นคงของเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมประเทศ การดูแลไร่อ้อยอย่างมีระบบจะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างรายได้มั่นคง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเกษตรไทยสู่ความยั่งยืนในระยะยาว