'ควีนเอลิซาเบธ‘สวรรคตแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป กับปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์

09 ก.ย. 2565 | 00:47 น.

'ควีนเอลิซาเบธ‘สวรรคตแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หลังรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยปฏิบัติการ ‘ลอนดอนบริดจ์’ (Operation London Bridge) รวมถึงปฏิบัติการ ‘สปริงไทด์’ (Operation Spring Tide) หรือการขึ้นครองราชย์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคตแล้ว ด้วยพระชนมายุ 96 พรรษา หลังจากนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ วัย 73 ปี จะขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 คือผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุด โดยเป็นประมุขแห่งสหราชอาณาจักร และอีก 14 อาณาจักร และเป็นประมุขของ 54 ชาติในเครือจักรภพ

 

'ควีนเอลิซาเบธ‘สวรรคตแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป กับปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์

รัฐบาลอังกฤษได้เปิดแผนการหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในชื่อปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์รวมถึงปฏิบัติการสปริงไทด์หรือการขึ้นครองราชย์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

 

  • ในวันสวรรคต

 

ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสมเด็จพระราชินีนาถสวรรคต นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่อาวุโสจำนวนหนึ่งจะได้ทราบข่าว โดยเลขาฯ ของพระราชินีจะแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ จากนั้นจะแจ้งแก่สำนักองคมนตรี ที่ประสานงานราชการในนามของพระราชินี

 

'ควีนเอลิซาเบธ‘สวรรคตแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป กับปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์

 

การแจ้งข่าวการสวรรคต อยู่ภายใต้รหัส “สะพานลอนดอนล่มแล้ว” หรือ “London Bridge is down

นอกจากโทรศัพท์แจ้งข่าวแล้ว รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงจะได้รับอีเมลจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้วย หลังจากได้รับอีเมลดังกล่าว อาคารรัฐบาลทั้งหมดจะลดธงลงครึ่งเสาภายใน 10 นาที

 

ขณะที่พระราชวงศ์จะออกประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อแจ้งข่าวต่อสาธารณะ และประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นเป็นเวลา 10 วัน

 

นายกรัฐมนตรีจะออกแถลงการณ์ ขณะที่สมาชิกรัฐบาลทั้งหมดจะได้รับคำสั่งไม่ให้แสดงความคิดเห็นก่อนหน้านั้น

 

กระทรวงกลาโหมจะจัดให้มีการยิงสลุต และรัฐบาลจะประกาศให้ประชาชนร่วมยืนสงบนิ่งไว้อาลัยสมเด็จพระราชินี จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเข้าเฝ้ากษัตริย์พระองค์ใหม่ และแถลงการณ์จากพระเจ้าชาร์ลส์จะถ่ายทอดไปทั่วประเทศ

 

ในเวลาเดียวกัน จะมีพิธีมิสซาถวายความอาลัยจัดขึ้น ณ มหาวิหารเซนต์พอล ในกรุงลอนดอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนหนึ่งเข้าร่วม

 

  • วันที่ 1

 

10 โมงเช้า หลังจากวันที่สมเด็จพระราชินีนาถสวรรคต สภาองคมนตรีรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโส ร่วมประชุมที่พระราชวังเซนต์เจมส์เพื่อประกาศให้พระเจ้าชาร์ลส์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ ที่ปรึกษาองคมนตรีนับร้อยคน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย

 

'ควีนเอลิซาเบธ‘สวรรคตแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป กับปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์

 

รัฐสภาจะประชุมตกลงข้อความแสดงความเสียใจ กิจธุระของรัฐสภาทั้งหมดจะระงับเป็นเวลา 10 วัน ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเข้าเฝ้ากษัตริย์องค์ใหม่

 

  • วันที่ 2

 

หากพระราชินีสวรรคตที่ซานดริงแฮม ที่ประทับส่วนพระองค์ในนอร์ฟอล์ก ทางตะวันออกของอังกฤษ หีบพระบรมศพของพระองค์จะเดินทางโดยรถไฟหลวงมายังสถานีแพนแครสในกรุงลอนดอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมารอรับ

 

หากพระองค์สวรรคตที่พระตำหนักบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ จะเข้าสู่ปฏิบัติการ ‘ยูนิคอร์น’ (Operation Unicorn) ซึ่งรถไฟหลวงจะนำพระบรมศพของพระองค์กลับมายังลอนดอน หรืออาจเปลี่ยนเป็นปฏิบัติการ ‘โอเวอร์สตัดดี’ (Operation Overstudy) นั่นคือขนส่งหีบพระบรมศพกลับมาทางเครื่องบิน 

 

  • วันที่ 3

 

ช่วงเช้า พระเจ้าชาร์ลส์จะได้รับการแสดงความเสียใจจากรัฐสภา จากนั้นในช่วงบ่าย พระองค์จะเริ่มพระราชกรณียกิจในสหราชอาณาจักร เริ่มต้นด้วยการเยือนสภาสกอตแลนด์ และเข้าร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารเซนต์ไจลส์ในกรุงเอดินเบอระ

 

  • วันที่ 4

 

พระเจ้าชาร์ลส์เสด็จพระราชดำเนินถึงไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งจะได้รับการแสดงความเสียใจ ณ พระตำหนักฮิลส์โบโร และร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารเซนต์แอนน์ในกรุงเบลฟาสต์

 

ระหว่างนั้น จะเข้าสู่ปฏิบัติการ ‘ไลออน’ (Operation Lion) หรือการซ้อมพิธีพระบรมศพ โดยขบวนเคลื่อนหีบพระบรมศพจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังอาคารรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์

 

  • วันที่ 5

 

ขบวนพระบรมศพเริ่มเคลื่อนจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ เมื่อหีบพระบรมศพมาถึงอาคารรัฐสภาจะมีพิธีมิสซา
 

  • วันที่ 6-9

 

พระบรมศพของพระราชินีจะอยู่ที่อาคารรัฐสภาเป็นเวลา 3 วัน ในปฏิบัติการ ‘เฟเทอร์’ (Operation Feather) หีบพระบรมศพของพระองค์จะตั้งอยู่บนพระจิตกาธานกลางเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเคารพพระบรมศพ 23 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายบัตรวีไอพีสำหรับบางช่วงเวลาเป็นกรณีพิเศษ

 

ในวันที่ 6 มีการซ้อมพิธีพระบรมศพของรัฐ

 

ในวันที่ 7 พระเจ้าชาร์ลส์ เสด็จพระราชดำเนินเยือนเวลส์และได้รับการแสดงความเสียใจจากสภาเวลส์ จากนั้นเข้าร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารแลนดัฟฟ์ในกรุงคาร์ดิฟฟ์

 

หน่วยงานที่ต้องรับบทหนักในที่นี้คือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม โดยกระทรวงการต่างประเทศต้องเชิญผู้นำประเทศต่างๆ และบุคคลชั้นนำมาร่วมพิธีพระบรมศพ รวมถึงบริหารจัดการนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศในช่วงที่ยังมีโรคระบาด

 

กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบในการจัดการเรื่องความปลอดภัย ขณะที่สำนักเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติและสำนักข่าวกรองต้องตื่นตัวในระดับสูงหากมีภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่เพิ่มขึ้น

 

กระทรวงคมนาคมแสดงความกังวลว่าจำนวนผู้ที่ต้องการเดินทางไปลอนดอนอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อเครือข่ายการคมนาคมขนส่ง และนำไปสู่ความแออัดคับคั่งของประชาชนได้

 

นายกรัฐมนตรีและสมเด็จพระราชินีเห็นพ้องต้องกันว่าวันงานพระบรมศพของรัฐจะเป็น ‘วันไว้ทุกข์แห่งชาติ’ โดยวันดังกล่าวจะกลายเป็นวันหยุดธนาคารไปโดยปริยาย 

 

นอกจากนี้ หากงานศพตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร จะไม่มีวันหยุดธนาคารเพิ่มเติม หากงานศพตรงกับวันธรรมดา รัฐบาลไม่มีแผนสั่งให้นายจ้างให้ลูกจ้างหยุดงานแต่อย่างใด
 

  • วันที่ 10

 

พิธีพระบรมศพโดยรัฐจะจัดขึ้นที่เวสต์มินสเตอร์แอบบี (Westminster Abbey) พระอารามหลวงที่จัดพิธีการสำคัญของประเทศ

 

ในตอนเที่ยง ทั่วประเทศจะอยู่ในความเงียบเป็นเวลา 2 นาที

 

ขบวนพระบรมศพจะจัดขึ้นทั้งในกรุงลอนดอนและที่พระราชวังวินด์เซอร์ ทางตะวันตกของลอนดอน โดยจะมีพิธีการในโบสถ์เซนต์จอร์จที่พระราชวังวินด์เซอร์ จากนั้นจะเคลื่อนพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เข้าไปฝังในโบสถ์อนุสรณ์พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของพระองค์

 

Cr : politico.euindependent.co.uk