KEY
POINTS
นโยบายรัฐบาลขยายเกษียณอายุราชการพลเรือนจาก 60 ปี เป็น 65 ปี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ดำเนินการศึกษาเฉพาะกรณีข้าราชการพลเรือน และอาจนำไปสู่แนวทางปฏิบัติของภาคเอกชนนั้นนายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจว่า เห็นด้วย การขยายอายุเกษียณของข้าราชการ และอาจนำไปใช้ในภาคเอกชนด้วย เป็นแนวคิดที่มีข้อดีหลายข้อ แต่ก็มีข้อควรพิจารณา
ข้อดี ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ คนวัยเกษียณจำนวนมากยังมีสุขภาพแข็งแรง มีประสบการณ์และความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร การให้ทำงานต่อจะช่วยให้รัฐและเอกชนยังใช้ศักยภาพของบุคลากรได้เต็มที่ ลดการสูญเสียคนเก่งก่อนเวลา อีกทั้งยังช่วยลดภาระงบประมาณด้านบำนาญ และทำให้ระบบประกันสังคมมีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับ ภาคเอกชนโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ได้รับผลดีทางอ้อม เพราะหากผู้สูงอายุยังมีรายได้จากการทำงานต่อ กำลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยจะคงอยู่ต่อเนื่อง กลุ่มวัยเกษียณที่ยังมีรายได้ประจำ มักต้องการบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวัยหลังเกษียณ เช่น บ้านชั้นเดียว บ้านที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุ บ้านWellness ซึ่งจะเป็นตลาดใหม่ที่เติบโตได้ดี
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องพิจารณาเรื่อง โอกาสของคนรุ่นใหม่ เพราะหากขยายอายุเกษียณโดยทั่วหน้า อาจทำให้ตำแหน่งงานหรือการเลื่อนขั้นของคนรุ่นใหม่ช้าลง รวมถึงต้องดูความเหมาะสมของลักษณะงานด้วย เพราะบางตำแหน่งต้องการพลังและทักษะเทคโนโลยีที่คนรุ่นใหม่ถนัดกว่า
โดยสรุป ควรดำเนินนโยบายนี้อย่างเป็นขั้นตอน เช่น ขยายอายุเกษียณเฉพาะตำแหน่งที่ต้องอาศัยประสบการณ์ หรือให้เป็นระบบสมัครใจ เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างคนรุ่นเก่าที่มีศักยภาพ กับโอกาสของคนรุ่นใหม่