KEY
POINTS
ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน ตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายอย่างหนัก หลายบริษัทต่างปรับตัวรับเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยมุ่งปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ย้อนไปก่อนหน้านี้ CMC ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2537 โดย “กลุ่มครอบครัวแพทยานันท์” ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2552 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ภายใต้การนำของนายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ จากบทบาทของการเป็นแพทย์สู่ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของCMC
ล่าสุดได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้ทายาทรุ่นที่3 “ป๊อป-วรัทภพ แพทยานันท์” กรรมการบริหาร CMC ผู้เป็นหลานชาย ดูแลและบริหารในหลายโครงการโดยเฉพาะ “มนต์ตรา เจ้าพระยา” (Montra Chaophraya) มูลค่า 2,200ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูส เวลเนส เรสซิเดนซ์ ในฐานะ Project Manager
บนที่ดินของสำนักงานพระคลังข้างที่ เนื้อที่2 ไร่เศษ ทำเลศักยภาพ ซอยเจริญกรุง 39 จุดตัดถนนสี่พระยา–เจริญกรุง ใจกลางย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมคลาสสิก และศิลปะร่วมสมัย ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ รวมถึงยังมีโครงการอยู่ระหว่างเปิดขายและมีแผนพัฒนาโครงการอีกหลายแห่ง อย่างทำเล บริเวณมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ย่านรังสิตที่น่าจับตายิ่ง
“ป๊อป-วรัทภพ” จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารสมาคมอาคารชุดไทย, กรรมการบริหารสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
หลังเรียนจบได้ทำงานเป็นวิศกรที่บริษัทเอกชน ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งใน CMC ในตำแหน่งผู้จัดการส่วนการตลาดในปี 2554 ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ในปี 2556 ผู้จัดการโครงการ (บริษัทในเครือ) ในปี 2558 ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ในปี 2560 ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ในปี 2561 กรรมการผู้จัดการ (บริษัทในเครือ) ในปี 2565 และกรรมการบริหารในปี 2568
นอกจากการพัฒนาโครงการที่ได้จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน “ป๊อป-วรัทภพ” ถ่ายทอดวิธีคิดในการบริหารองค์กรผ่านคอลัมน์ ซีอีโอ โฟกัส “ฐานเศรษฐกิจ” ไว้อย่างน่าสนใจว่า ได้แนวคิดการทำธุรกิจมาจาก “คุณหมอ” ผู้เป็นคุณอา (นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์)
อีกทั้งเป็น “หมอ”ที่ให้ความใส่ใจการพัฒนาโครงการด้านสุขภาพที่ยั่งยืนของคนทุกเพศวัย ขณะราคาขายทุกโครงการ เน้นจับต้องได้ แต่เมื่ออยู่อาศัยแล้วต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่คุ้นชินและยึดถือมาโดยตลอด “คุณหมอ” ได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน ซึ่งถือเป็น จุดแข็งของบริษัทฯ ทำให้ลูกค้า คู่ค้า นักลงทุนไว้วางใจ
สิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ได้ให้ความสำคัญ คือการปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงานและพัฒนาบุคลากรให้ทันกับเทคโนโลยี ทั้งนี้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเพียงเครื่องมือ แต่คนต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่ม Productivity และการเติบโต
ขณะมุมมองต่อ Generation Z (Gen Z) ในองค์กรมองว่า Gen Z เป็นที่คาดเดายาก ไร้ทิศทาง “ป๊อป-วรัทภพ”อธิบายว่าการทำงานกับ Gen Z ต้องควบคุมความรู้สึกและอารมณ์ให้ดี เพราะการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาของพวกเขาบางครั้งอาจทำให้ผู้ใหญ่อ่อนไหวหรือทนไม่ได้
เนื่องจากขาดบริบททางสังคม เช่น มารยาท ความอ่อนน้อมถ่อมตนจุดแข็ง มีศักยภาพสูงมาก แต่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจุดเดียวที่สามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ โดยบริษัท มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับ Gen Z ต้องทำ Workshop และพูดคุยกับคนกลุ่มนี้มากขึ้นสร้างกิจกรรมนอกเหนือจากงานเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างเจนเนอเรชัน หากผู้บริหารไม่มีเวลาหรือไม่มีคนกลางคอยสื่อสาร อาจเกิดช่องว่างจนถึงขั้น “เกลียดกัน”
Gen Z ที่ดีจะมีความคิดวิเคราะห์และหาทางออกได้ดี ซึ่งสัดส่วนในองค์กรบริษัทมีพนักงาน Gen Z ประมาณ 30% ที่เหลือเป็น Gen เก่าและใหม่ ความท้าทาย องค์กรที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยมอาจเผชิญความยากลำบากในการแข่งขันและปรับตัวสู่โมเดลธุรกิจใหม่
โดยประเมินว่าการปรับเปลี่ยนองค์กร มี 2 ทางคือค่อยๆ แทรกซึมเพื่อเปลี่ยนความคิดคนเก่า หรือประกาศชัดเจนให้ทุกคนต้องเปลี่ยน “ป๊อป-วรัทภพ” ระบุว่าหัวใจสำคัญ ของการทำงาน “การดูแลลูกค้าให้ดี เป็นสิ่งสำคัญมาก” ต้องพัฒนาช่องทางการติดต่อและการดูแลลูกค้าให้ดีขึ้น เพื่อลดการเสียลูกค้าให้เหลือน้อยที่สุด สภาพคล่อง สำคัญที่สุดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อยืดอายุของบริษัทให้ยาวนานขึ้น จนกว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้นอย่างจริงจัง
“มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ต้องรัดเข็มขัดและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ใช้เทคโนโลยีราคาไม่แพงมาช่วย ลดต้นทุนการพัฒนาโครงการ และไม่หว่านลงทุนมากเกินไป”
นี่คือวิธีคิดและการบริหารองค์กรให้ยั่งยืนในแบบฉบับคนรุ่นใหม่ ภายใต้ ทายาทรุ่นที่3 ของ‘CMC’