การเปิดตัว Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House บนถนนวิทยุ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรีในกรุงเทพฯ และเป็นการประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า “เมืองหลวงของไทย” กำลังถูกจับตามองจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในฐานะสมรภูมิใหม่ของตลาด Branded Residence ที่เติบโตเร็วสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เบื้องหลังโปรเจกต์นี้ คือความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง ซิตี้ ไดนามิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ซิตี้ เรียลตี้ ของไทย และ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จากฮ่องกง กับ สไวร์ โฮเทลส์ (Swire Hotels) ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์โรงแรม Upper House ที่ติด Top 5 ของโลกในทำเนียบ The World’s 50 Best Hotels ต่อเนื่องสองปีซ้อน การขยับตัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่คือการ “นำแบรนด์โรงแรมหรูมาสู่การใช้ชีวิตประจำวัน”
ผ่านคอนเซปต์ Branded Residence ที่ผสานความเป็นบริการระดับโรงแรมเข้ากับการอยู่อาศัยถาวรทั้งสองโครงการ ได้แก่ Upper House Residences Bangkok อาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต และ The Wireless Residences by Upper House สูง 71 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต ตั้งอยู่บนทำเลทองถนนวิทยุ ซึ่งเป็นย่านที่มีศักยภาพสูงสุดด้านมูลค่าที่ดินในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับ 3 แสนบาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ที่มีซัพพลายใหม่จำกัดแต่ดีมานด์ยังเหนียวแน่นจากผู้ซื้อกลุ่มทุนต่างชาติและนักลงทุนพอร์ตลักชัวรี
การเข้ามาของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Upper House ยังสะท้อนภาพ “ความร่วมมือระหว่างทุนไทยและทุนต่างชาติ” ที่กำลังกลับมามีบทบาทอีกครั้งหลังโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มทุนฮ่องกงและจีน ที่หันมาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อกระจายพอร์ตความเสี่ยง ขณะเดียวกันผู้พัฒนาไทยอย่าง “ซิตี้ เรียลตี้” ก็ได้โอกาสยกระดับภาพลักษณ์และมาตรฐานงานพัฒนาเข้าสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เห็นได้จากหลายดีลในช่วง 2 ปีหลัง ทั้งการร่วมทุนของ MQDC กับแบรนด์ Waldorf Astoria หรือการกลับมาของ Four Seasons Private Residences ที่เจาะตลาดลูกค้าระดับบนทั่วภูมิภาค
ด้าน นายเคซี อาว และ นายโทมัส วูลซี กรรมการผู้จัดการร่วมของซิตี้ ไดนามิค ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานดีเอ็นเอของแบรนด์ Upper House ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์เรียบหรูเหนือกาลเวลา เข้ากับประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มซิตี้ เรียลตี้ เพื่อสร้างโครงการที่เป็น “มรดกทางสถาปัตยกรรม” และสะท้อนมาตรฐานใหม่ของที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ โดยมี Foster + Partners ร่วมออกแบบสถาปัตยกรรม และ BAR Studio ออกแบบตกแต่งภายใน พร้อมพันธมิตรด้านเวลเนสระดับโลกอย่าง GOCO ที่เข้ามายกระดับบริการสุขภาพเชิงองค์รวมให้แก่ผู้อยู่อาศัย
การเปิดตัวโครงการนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ “กลุ่ม Branded Residence” ของไทยกำลังอยู่ในช่วงเติบโตต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของบริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง คาดว่าปัจจุบันกรุงเทพฯ มีโครงการภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำเปิดขายแล้วกว่า 10 โครงการ รวมมูลค่าตลาดกว่า 6 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยปีละ 8-10% จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่มองหาการลงทุนระยะยาวและมูลค่าทรัพย์สินที่มีเสถียรภาพ
สำหรับ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากฮ่องกง การเข้ามาพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ นับเป็นการขยายพอร์ตการลงทุนในตลาดอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม หลังประสบความสำเร็จกับโครงการ OPUS Hong Kong และ EDEN Singapore และยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “Regional Expansion” ที่มุ่งกระจายสินทรัพย์ออกจากตลาดฮ่องกงและจีน ซึ่งมีการแข่งขันสูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ขณะที่ฝั่งของ ซิตี้ เรียลตี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีรากฐานมั่นคงจากตระกูลโสภณพนิช การร่วมทุนครั้งนี้ไม่เพียงเปิดตลาดใหม่ในระดับอัลตร้าลักชัวรี แต่ยังเป็นการ “ปักหมุดซิกเนเจอร์ใหม่” ที่จะต่อยอดธุรกิจในอนาคต ทั้งในมิติของมูลค่าแบรนด์และการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศ
ทั้งนี้ โครงการทั้งสองคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 และหากประสบความสำเร็จตามแผน ตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ อาจได้เห็น “แลนด์มาร์กใหม่” ที่ไม่เพียงแข่งขันด้านดีไซน์หรือทำเล แต่ยังแข่งขันกันในมิติของ “ประสบการณ์และบริการ” ซึ่งเป็นเทรนด์หลักของตลาดลักชัวรีในยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อแสวงหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตซึ่งสะท้อนสถานะและคุณค่าของตนเอง และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของการเปลี่ยนโฉมตลาดลักชัวรีเรสซิเดนซ์ไทย ที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุค Global Premium ที่กรุงเทพฯ อาจะกลายเป็นเวทีของทุนระดับโลก ที่มองเห็นศักยภาพของตลาดไทยในฐานะศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ลักชัวรีแห่งเอเชีย
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,143 วันที่ 26 -29 ตุลาคม พ.ศ. 2568