แนะ 7 เช็กลิสต์ก่อนจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้าน สกัดปัญหาทิ้งงาน

23 ต.ค. 2568 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ต.ค. 2568 | 09:00 น.

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน แนะแนวทาง 7 วิธี “เช็กก่อนจ้าง” ป้องกันปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ช่วยผู้บริโภคเลือกบริษัทรับสร้างบ้านได้มาตรฐาน มั่นใจ ปลอดภัย และตรวจสอบได้

ในช่วงที่ตลาดรับสร้างบ้านแข่งขันรุนแรงและมีผู้ประกอบการหลากหลายตั้งแต่รายใหญ่จนถึงผู้รับเหมาท้องถิ่น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association: HBA) ออกมาเตือนผู้บริโภคให้เพิ่มความระมัดระวังก่อนตัดสินใจจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาทิ้งงานและการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน พร้อมเปิดแนวทาง “7 วิธีเช็กก่อนจ้าง” เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความปลอดภัยในอุตสาหกรรม

นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านมีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อขาดข้อมูลที่ถูกต้องและไม่ตรวจสอบบริษัทให้รอบด้านก่อนว่าจ้าง

“การสร้างบ้านคือการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิต จึงไม่ควรตัดสินใจเพียงจากภาพลักษณ์หรือโฆษณา แต่ต้องตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับเหมามีศักยภาพและความรับผิดชอบจริง” นายอนันต์กรกล่าว

นายอนันต์กรยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผู้รับเหมาทิ้งงานมักสร้างความเสียหายรุนแรง ทั้งด้านเวลา งบประมาณ และค่าใช้จ่ายในการแก้ไขงาน รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งสามารถป้องกันได้ หากผู้บริโภคมีความรู้และเตรียมการตรวจสอบล่วงหน้า

เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ HBA ได้สรุป “7 วิธีเช็กก่อนจ้าง” ดังนี้

  • ตรวจสอบสถานะนิติบุคคลและประวัติการดำเนินงานของบริษัท
  • ตรวจสอบว่าเป็น “สมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน” ซึ่งรับรองมาตรฐานคุณภาพและจรรยาบรรณ
  • สัญญาจ้างต้องเป็นธรรม โดยอ้างอิง “ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ปี 2569”
  • งวดเงินต้องสอดคล้องกับงวดงาน ชำระตามความคืบหน้าจริง ห้ามจ่ายล่วงหน้าเกินจำเป็น
  • ชำระเงินผ่านนิติบุคคลคู่สัญญาโดยตรง เพื่อให้มีหลักฐานตรวจสอบได้
  • ตรวจสอบผลงานจริง ขอชมบ้านตัวอย่างหรือสอบถามลูกค้าเก่า
  • เก็บหลักฐานทุกขั้นตอน เช่น สัญญา ใบเสนอราคา ใบเสร็จ และภาพถ่ายหน้างาน

แนะ 7 เช็กลิสต์ก่อนจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้าน สกัดปัญหาทิ้งงาน

นายอนันต์กรเสริมว่า ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมักให้ความสำคัญกับแบรนด์และภาพลักษณ์ของบริษัท แต่สิ่งที่ควรมองให้ลึกคือระบบบริหารงานก่อสร้าง ความรับผิดชอบ และความโปร่งใสของบริษัท เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการสำเร็จได้ตามมาตรฐาน โดยบริษัทที่ดีต้องไม่เพียงสร้างบ้านสวย แต่ต้องมีระบบบริหารที่ตรวจสอบได้และไม่เอาเปรียบลูกค้า

ทั้งนี้ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงทำหน้าที่ยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางความรู้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยส่งเสริมให้ทุกบริษัทที่เป็นสมาชิกมีมาตรฐานเดียวกัน สร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดเติบโตอย่างมีคุณภาพและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

“การสร้างบ้านไม่ใช่แค่เลือกแบบที่สวย แต่ต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้ มีมาตรฐาน และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน” นายอนันต์กรกล่าวสรุป