ต่างชาติหนุน 'สมุย' โตแรง อสังหาฯ–ท่องเที่ยวดันเศรษฐกิจใต้คึก

09 ต.ค. 2568 | 23:46 น.

'สมุย' กลับมาคึกคักหลังเศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้น ดันตลาดอสังหาฯ พุ่งแรงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ ขณะที่นักลงทุนไทยเริ่มมองเห็นโอกาสระยะยาวในตลาดรีสอร์ตและพูลวิลล่า

หลังผ่านช่วงโควิดที่ซบเซาหลายปี เกาะสมุยกำลังกลับมาเป็นหนึ่งในจุดหมายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงที่สุดในภาคใต้ จากแรงหนุนของภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และกำลังซื้อของชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาซื้อบ้านพักตากอากาศและพูลวิลล่าระดับลักชัวรีในพื้นที่แนวชายหาด โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากยุโรป รัสเซีย และจีน ที่มองสมุยเป็น “เกาะแห่งการพักผ่อนและลงทุน” พร้อมกันในเวลาเดียว

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสมุยปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนของการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูง หลังรัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาอาคารผู้โดยสารสนามบินสมุย และโครงการขยายท่าเรือเฟอร์รี่ ทำให้สมุยกลับมาเป็นทำเลศักยภาพที่ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์สมุยแตกต่างจากหัวเมืองท่องเที่ยวอื่น เพราะเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยดีมานด์จริงของผู้ซื้อ ไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดบ้านพักตากอากาศและพูลวิลล่าระดับบน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและปล่อยเช่าในช่วงที่ไม่ได้ใช้เอง ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายภัทรชัย กล่าว

ข้อมูลจากคอลลิเออร์สฯ ระบุว่า ปัจจุบันลูกค้าต่างชาติครองสัดส่วนสูงกว่า 70% ของตลาดอสังหาฯ สมุย โดยเฉพาะในกลุ่มพูลวิลล่าระดับราคา 30-100 ล้านบาท ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ซื้อในยุโรปตะวันตกและรัสเซีย ส่วนตลาดระดับกลางยังคงมีชาวไทยและชาวเอเชียเข้ามาซื้อเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว เนื่องจากอัตราค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ราคาที่ดินแนวชายหาด เช่น หาดเฉวง หาดละไม และหาดบ่อผุด ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 8-10% จากความต้องการที่อยู่อาศัยแนวรีสอร์ตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ที่ดินบนเนินเขาหรือวิวทะเลได้รับความนิยมจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อย เพราะราคายังจับต้องได้และสามารถพัฒนาเป็นพูลวิลล่าขนาดเล็กเพื่อปล่อยเช่าได้ง่าย

รีสอร์ต-พูลวิลล่าโตแรง ผลดีจากตลาดท่องเที่ยว

แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดสมุยมาจากภาคท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก โดยในปี 2567 สมุยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากว่า 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้า ทำให้ความต้องการที่พักระยะยาวและอสังหาฯ เพื่อการลงทุนพุ่งสูงขึ้น ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติเร่งเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งรีสอร์ตระดับบนและพูลวิลล่าริมหาด

ขณะเดียวกัน การที่สมุยมีข้อจำกัดด้านพื้นที่พัฒนา เนื่องจากข้อกำหนดผังเมืองและภูมิประเทศ ทำให้ซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ไม่มากนัก ปัจจัยนี้กลายเป็นแรงหนุนให้ราคาทรัพย์สินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ผู้ถือครองสินทรัพย์ในสมุยได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้ การร่วมทุนระหว่างผู้พัฒนาอสังหาฯ ไทยและต่างชาติในช่วงหลังสะท้อนชัดว่า สมุยกำลังยกระดับสู่ตลาดลักชัวรีระดับโลก เช่นเดียวกับภูเก็ต โดยคอลลิเออร์สฯ ประเมินว่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จะมีโครงการใหม่ระดับพรีเมียมทยอยเปิดตัวอีกหลายโครงการ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งในรูปแบบพูลวิลล่าและเรสซิเดนซ์โรงแรม

“ปัจจุบันสมุยไม่ใช่เพียงตลาดบ้านพักตากอากาศของนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) สามารถสร้างรายได้จากค่าเช่าและมูลค่าเพิ่มระยะยาวได้จริง โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าและเศรษฐกิจโลกผันผวน” นายภัทรชัยกล่าว

โดยสรุปแล้ว คอลลิเออร์สฯ มองว่า ทิศทางตลาดอสังหาฯ สมุยในปี 2569 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนของภาคท่องเที่ยว เศรษฐกิจภูมิภาคที่ฟื้นตัว และการเข้ามาของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในตลาดลักชัวรี ซึ่งมีความต้องการสูงและซัพพลายจำกัด จึงคาดว่าราคาทรัพย์สินจะยังปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-8% ต่อปี พร้อมส่งสัญญาณว่า “สมุย” กำลังเข้าสู่ยุคทองของการเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว