ดีลลงทุนโรงแรมไทยยังโต คาดสิ้นปีพุ่ง 650 ล้านดอลลาร์ สวนทางเอเชียแปซิฟิก

15 ก.ย. 2568 | 11:25 น.

เจแอลแอลเผยการลงทุนซื้อขายโรงแรมเอเชียแปซิฟิกครึ่งปีแรก 2568 รวม 4,700 ล้านดอลลาร์ ลดลง 23% ไทยยังคงโดดเด่นด้วยสภาพคล่องสูง คาดทั้งปีพุ่ง 650 ล้านดอลลาร์

บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล รายงานภาพรวมการลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีมูลค่ารวม 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 152,000 ล้านบาท ลดลงราว 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการลงทุนที่เป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งด้านมหภาคและนโยบายเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นยังครองแชมป์มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 1,500 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือจีน 744 ล้านดอลลาร์ ออสเตรเลีย 664 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์ 546 ล้านดอลลาร์ และเกาหลีใต้ 504 ล้านดอลลาร์ รวมกันกว่า 84% ของดีลทั้งภูมิภาค ส่วนประเทศไทยมีการลงทุนมูลค่า 301 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9,800 ล้านบาท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เล่นภายในประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะ 650 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี

เจแอลแอลวิเคราะห์ว่า การชะลอตัวดังกล่าวเกิดจากช่องว่างราคาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่กว้างขึ้น ผู้ขายยังคงยึดราคาคาดหวัง ขณะที่ผู้ซื้อใช้เวลาตรวจสอบสินทรัพย์นานขึ้น อย่างไรก็ดี ภาพรวมยังสะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจโรงแรมที่เริ่มฟื้นตัว โดยนักลงทุนกลุ่มใหม่ เช่น private equity และนักลงทุนบุคคลที่มีสินทรัพย์สูง (HNWI) กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยในครึ่งปีแรกเม็ดเงินจาก HNWI เพิ่มขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบปีก่อน

สำหรับประเทศไทย นางพิมพ์พะงา ยมจินดา รองประธานบริหารฝ่ายบริการลงทุนซื้อขายภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เจแอลแอล ระบุว่า ตลาดยังมีสภาพคล่องสูงและน่าสนใจ โดยกรุงเทพฯ ยังคงเป็นหัวเมืองที่มีดีลใหญ่ที่สุด ขณะที่นายนิฮาท เออร์แคน ประธานบริหารธุรกิจบริการการลงทุนโรงแรมของเจแอลแอล ชี้ว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นจังหวะสำคัญสำหรับนักลงทุนเชิงกลยุทธ์และกองทุนเอกชนที่พร้อมใช้เงินทุน โดยธุรกรรมที่กำลังอยู่ระหว่างเจรจาจะหนุนให้ทั้งปี 2568 มีการลงทุนรวมราว 12,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 5% จากปีก่อน

ทั้งนี้ แนวโน้มระยะยาวยังคงสดใส โดยการท่องเที่ยวในภูมิภาคฟื้นตัวต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 12% ดันรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักและอัตราการเข้าพักในเมืองศูนย์กลางหลักกลับมาใกล้เคียงหรือสูงกว่าระดับก่อนโควิด กรุงเทพฯ แม้นักท่องเที่ยว 7 เดือนแรกจะลดลงกว่า 6% แต่ค่าห้องพักเฉลี่ยรายวันยังทำสถิติสูงสุดใหม่ สะท้อนศักยภาพตลาดโรงแรมไทยที่ยังคงดึงดูดเม็ดเงินลงทุน